ไม่ต้องห่วง! นายกฯ ชี้ มีโอกาสค่าไฟ 3.70 บาท หวังลดต้นทุน-ค่าครองชีพประชาชน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การปรับลดค่าไฟฟ้ามาเหลือ 3.70 บาท/หน่วย มีความเป็นไปได้ และเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลอยากทำให้ได้ เพื่อให้ค่าไฟราคาถูกลง ช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพขั้นพื้นฐานให้กับประชาชน และสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ ซึ่งเป็นการลดต้นทุน เมื่อรัฐบาลสามารถเจรจากับทุกฝ่ายให้ลดต้นทุนได้ จะเกิดประโยชน์กับประเทศ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า  รัฐบาลมีแนวทางใดที่จะทำให้ลดเหลือ 3.70 บาท เพราะส่วนต่างมีมากถึง 0.45 สตางค์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีการตกลงกันและต้องพูดคุยกับหลายฝ่าย ต้องดูและตัดในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป เรื่องค่าไฟที่มีการซ้ำซ้อนกันต้องคุยกันทุกภาคส่วน เพื่อตกลงกันในการลดค่าไฟให้ได้ ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ก็เป็นเป้าหมายของรัฐบาล ขอประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกๆ ในการจัดลำดับความสำคัญของปีนี้ ในการพูดคุย   เมื่อถามว่าได้คุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แล้วหรือไม่ ถึงความเป็นไปได้ในการลดค่าไฟ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตัวเลข 3.70 บาท ถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ต้องมีการหารือกันต่อ แต่จากตัวเลขที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ จะต้องค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ เรื่องดีๆ ต้องตั้งให้เป็นไปได้แล้วมันจะค่อยๆ เป็นไปได้

เมื่อถามอีกว่า เรื่องนี้เป็นหลักประกันให้กับนายพีระพันธุ์ ไม่ถูกปรับออกจาก ครม. หรือไม่ นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ไม่ทราบเลยว่าทำไม 

“หลังไมค์เคยคุยกับสื่อมวลชนด้วยซ้ำว่า ไม่เคยมีการพูดเรื่องการปรับ ครม. ยังไม่ได้พูดเลยด้วยซ้ำ คิดว่าอำนาจการปรับ ครม. น่าจะเป็นของนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรียังไม่ทราบเลย ว่าจะมีการปรับครม.เกิดขึ้น ท่านพีระพันธุ์ก็พูดคุยกันอยู่ในการประชุม ครม. ก็เจอกัน ไม่มีการจะปรับ”  นายกฯ กล่าว

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงเชิญรัฐมนตรีมาพูดคุยการทำงานร่วมกันด้วยว่า ความจริงมีแนวคิดที่จะเชิญรัฐมนตรีแต่ละคนมาพูดคุยกันตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ติดภารกิจ ซึ่งการเชิญรัฐมนตรีแต่ละคนมาพูดคุยนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนทราบอยู่แล้ว จึงไม่ได้ทำให้รัฐมนตรีแต่ละคนตกใจแต่อย่างใด เพราะการเชิญมาพูดคุยกันนั้น เป็นเพียงการอัพเดตการทำงานร่วมกัน  เพื่อให้แต่ละคนได้นำเสนอพุดคุยและขอการสนับสนุนซึ่งกันและกัน