รีเซต

ชายหนุ่มถ่ายรูปกับแมวเหมียวมีโอกาสได้คู่ออกเดทน้อยกว่า

ชายหนุ่มถ่ายรูปกับแมวเหมียวมีโอกาสได้คู่ออกเดทน้อยกว่า
บีบีซี ไทย
4 กรกฎาคม 2563 ( 17:24 )
336
ชายหนุ่มถ่ายรูปกับแมวเหมียวมีโอกาสได้คู่ออกเดทน้อยกว่า

Getty Images

 

บางคนอาจเชื่อว่าการ "สร้างภาพ" ให้ตนเองดูเป็นคนจิตใจอ่อนโยน เช่นการถ่ายภาพกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก จะสามารถดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้ามในการหาคู่ทางออนไลน์ได้มากขึ้น แต่เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเสมอไป หากคุณเป็นผู้ชายที่เลือกใช้ภาพถ่ายคู่กับแมวเหมียวเป็นรูปโปรไฟล์

 

ข้อมูลดังกล่าวมาจากผลการศึกษาทดลองร่วมกัน ระหว่างนักวิจัยด้านสัตวแพทยศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยโคโลราโด และนักมานุษยวิทยาประจำมหาวิทยาลัยบอยซี-สเตต (BSU) ของสหรัฐฯ ซึ่งลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Animals ฉบับวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา

 

มีการทดลองให้อาสาสมัครหญิงชาวอเมริกัน อายุระหว่าง 18-24 ปี จำนวนเกือบ 1,400 คน แสดงความเห็นต่อภาพถ่ายของชายหนุ่มสองคนซึ่งแต่งกายเหมือนกัน โดยชายหนุ่มแต่ละคนจะมีภาพถ่ายให้อาสาสมัครได้ดูสองภาพ ทั้งภาพที่ถ่ายหน้าตรงเพียงลำพัง กับภาพที่เขาทั้งสองอุ้มแมวตัวหนึ่งเอาไว้ด้วย

 

ผู้วิจัยแบ่งอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองออกเป็นสองกลุ่ม ซึ่งผลปรากฏว่ามีอาสาสมัครหญิงในกลุ่มแรกเพียง 19% ที่ต้องการผูกสัมพันธ์ฉันคนรักกับชายในภาพที่อุ้มแมวอยู่ ขณะที่ 30% กลับบอกว่า ตนเองมีแนวโน้มจะผูกสัมพันธ์กับชายในภาพที่ไม่ได้อุ้มแมวอยู่มากกว่า

 

ส่วนอาสาสมัครในกลุ่มที่สองมีผู้สนใจจะคบหากับชายหนุ่มอุ้มแมวที่ 19% เช่นกัน ขณะที่ 23% ของกลุ่มนี้บอกว่าถูกใจชายในภาพที่ฉายเดี่ยวมากกว่า

 

Getty Images

อย่างไรก็ตาม ชายในภาพทั้งสองคนได้คะแนนเรื่องคุณสมบัติที่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น ในกรณีที่อาสาสมัครพิจารณาภาพหน้าตรงของพวกเขาที่ไม่ได้อุ้มแมวอยู่ด้วย และที่น่าสนใจก็คือ 50% ของอาสาสมัครทั้งหมดบอกว่า ชายหนุ่มทั้งสองนั้นน่าพึงใจและน่าออกเดทด้วยเหมือน ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่อุ้มแมวอยู่หรือไม่ก็ตาม

 

ผู้ทำการวิจัยอธิบายผลทดลองในครั้งนี้ว่า สัดส่วนของอาสาสมัครหญิงที่เป็นคนรักแมวมีเพียง 19% ในขณะที่คนรักสุนัขนั้นมีมากถึง 48% ซึ่งอาจทำให้อาสาสมัครส่วนใหญ่เกิดอคติ มองหนุ่มรักแมวว่าเป็นคนอ่อนแอไม่สมชายและชอบเก็บตัว ตามแนวโน้มของวัฒนธรรมอเมริกันที่มักเชื่อมโยงแมวเข้ากับเพศหญิง และเชื่อมโยงสุนัขเข้ากับความเป็นชายที่แข็งแกร่งและเปิดเผยมากกว่า

 

ผู้วิจัยยังระบุว่า ต้องการจะทดลองแบบเดียวกันกับสุนัขและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ ในบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไป ซึ่งน่าสงสัยว่าจะยังได้ผลเช่นเดิมอยู่หรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง