"ญี่ปุ่น"หวังราคา"ข้าว"ปรับตัวลงต้นเดือนมิ.ย.

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลมีแผนขายข้าวสำรองประมาณ 300,000 ตันให้กับผู้ค้าปลีกโดยตรง แทนการใช้ระบบประมูลที่ทำให้รัฐไม่สามารถควบคุมราคาข้าวได้

ชินจิโร โคอิซูมิ รมว.เกษตรคนใหม่ กล่าวกับเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ในระหว่างการประชุมว่า "หากเรายังทำเช่นเดิม ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถตอบสนองความคาดหวังของประชาชนได้ เราต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและเร่งด่วนเพื่อขจัดความกังวลของประชาชน"

ภายใต้ระบบขายข้าวแบบใหม่นั้น ข้าวจากคลังสำรองที่ผลิตในปี 2564 และ 2565 จะขายในราคา 11,556 เยน (รวมภาษี) ต่อ 60 กิโลกรัม และรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่งไปยังพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีการพิจารณาช่องทางจำหน่ายออนไลน์ เพื่อให้สามารถกระจายข้าวได้อย่างทั่วถึง

ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่คาดว่าจะสามารถกระจายข้าวจากคลังสำรองออกสู่ตลาดได้ตั้งแต่ 10,000 ตันขึ้นไป จะได้รับสิทธิ์ในการทำสัญญาและขายข้าวเป็นลำดับแรกในแต่ละวัน นอกจากนี้ ผู้ค้าปลีกไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิมที่ระบุว่า ผู้ที่ซื้อข้าวจากคลังสำรองของรัฐต้องขายข้าวคืนให้รัฐในปริมาณเท่ากัน

ภายใต้ระบบเดิมนั้น รัฐบาลได้ระบายข้าวจากคลังสำรองสามรอบตั้งแต่เดือนเม.ย. คิดเป็นปริมาณรวม 312,000 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกประมูลไปโดยกลุ่มต่าง ๆ เช่น สหกรณ์การเกษตรแห่งญี่ปุ่น โดยโคอิซูมิกล่าวว่าการประมูลเช่นนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นทุนข้าวพุ่งสูง จึงตัดสินใจระงับการประมูลและใช้ระบบขายข้าวแบบใหม่แทน

ราคาเฉลี่ยของข้าวที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จนแตะระดับสูงสุดที่ 4,268 เยนต่อ 5 กิโลกรัมในช่วงต้นเดือนพ.ค. หรือพุ่งขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลผลิตย่ำแย่

ทั้งนี้ โคอิซูมิเพิ่งเข้ารับตำแหน่งรมว.เกษตรคนใหม่เมื่อวันพุธที่แล้ว (21 พ.ค.) หลังการลาออกของทาคุ เอโตะ อดีตรมว.เกษตรซึ่งเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากคำพูดที่ว่า เขาไม่ต้องซื้อข้าวกินเอง เพราะได้รับข้าวเป็นของขวัญจำนวนมากจากผู้สนับสนุน