โค้งท้ายปี 67 SET อาจผันผวนน้อยลง โบรกคาดกองทุนเพิ่มน้ำหนักหุ้น SET50FF
#SET50FF #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส
ช่วงที่เหลือของปี ตลาดหุ้นไทยอาจผันผวนน้อยลง
ช่วงที่เหลือของปี ตลาดหุ้นไทยอาจผันผวนน้อยลง จากแรงเร่งขายหุ้นจากต่างชาติและกองทุนในประเทศ มีโอกาสลดลง ดังนี้
ต่างชาติมีโอกาสขายหุ้นไทยลดลง แม้ในไตรมาสที่ 4 จะเห็นเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคทุกประเทศ กลับไปสหรัฐ จากความคาดหวังการเข้าสู่ยุค TRUMP2.0 แต่เริ่มเห็นการลดลงและกลับมาซื้อบ้างบางประเทศในเดือน ธ.ค. (MTD) อาทิ อินเดีย, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้ เป็นต้น ส่วนตลาดหุ้นไทย แม้เดือน ธ.ค. นี้ ต่างชาติยังขายสุทธิ แต่เริ่มเห็นแรงขายเบาลงเรื่อยๆเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. และ เดือน ต.ค. ที่ผ่านมา
.
กองทุนน่าจะค่อยๆ กลับมาซื้อหุ้นหลังปรับพอร์ตรับการเพิ่มทุนหุ้นการบินไทยเสร็จสิ้นใน 12 ธ.ค. 67 นี้ โดยช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง บวกกับนักลงทุนขายหุ้นเตรียมเงินเพิ่มทุนหุ้นการบินไทย 6 - 12 ธ.ค. 67 ก่อน 15.30 น. เชื่อว่าหลังจากปรับพอร์ตเสร็จหุ้นน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัว พร้อมกันกับมีเม็ดเงิน THAIESG เข้ามา ส่งผลให้กองทุนเองก็ทยอยซื้อหุ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน
ดังนั้น เชื่อว่า Fund flow ต่างชาติและสถาบันฯ มีโอกาสชะลอขายหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี ส่วนหุ้นที่กองทุนน่าจะค่อยๆ ซื้อหุ้น ฝ่ายวิจัยคาดน่าจะเป็นหุ้น Free float สูงตามที่ก.ล.ต. แนะนำให้บลจ. หันมาใช้ดัชนี SET50FF เป็น Benchmark มากขึ้น ฝ่ายวิจัยจึงทำการคัดกรองหุ้นที่กองทุนต้องเพิ่มน้ำหนัก หากมาใช้ดัชนีอ้างอิงเป็น SET50FF แทน SET50 อาทิ BBL, KBANK, TISCO, SCB, CENTEL, LH, TU, CPN, WHA, BDMS, SCC, BH, CPALL และหุ้นอื่นๆ ดังตารางทางด้านล่าง
ถ้าใช้ SET50FF เป็น Benchmark
หลังจากที่มีการเปิดตัว SET50FF (เป็นดัชนี SET 50 ที่ปรับน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัวตามสัดส่วน FREE FLOAT ของหุ้น) เมื่อ ม.ค.67ที่ผ่านมา ล่าสุดเห็นความน่าจะเป็นที่ นักลงทุนสถาบันในประเทศมีแนวทางที่จะปรับเปลี่ยนตัว Benchmark จากเดิมที่ใช้ SET50 เป็น SET50FF ในอนาคต เราได้ลองศึกษาดูผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น หากกองทุนรวมต่างๆ มีการปรับมาใช้ SET50FF ซึ่งอาจต้องมีการปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับน้ำหนักใน SET50FF มากขึ้น หุ้นที่ได้ประโยชน์ ก็จะเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักในดัชนีอ้างอิงมากขึ้นเมื่อเทียบกับ SET50 เดิม เราพบว่า 4 อันดับแรกเป็นกลุ่มธนาคาร เช่น BBL, KBANK, TISCO, SCB และยังมีหุ้นที่น่าสนใจอย่าง SCC, WHA, CPALL เป็นต้น ส่วนหุ้นที่มีน้ำหนักลดลงอย่างเช่น ITC, TLI, DELTA, OR เป็นต้น
ภาพใหญ่ๆ ของวันนี้(12 พ.ย.) ยังอยู่ในภาวะที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งคาดว่าน่าจะทำให้ SET Index ผันผวนในกรอบ 1438 - 1450 จุด หุ้น สำหรับหุ้น TOP PICK วันนี้เลือก BEM, CPALL และ PLANB