“สหรัฐฯ ชัตดาวน์” ส่อยืดเยื้อหลายสัปดาห์

AFP รายงานว่า การเข้าสู่ภาวะ “ชัตดาวน์” หรือการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อหลายสัปดาห์ ไม่ใช่แค่หลักวัน หลังจากสัปดาห์แรกกำลังจะผ่านไปโดยที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังไม่สามารถตกลงกันได้
“แอนดรูว์ โคเนสชัสกี” อดีตโฆษกของ “ชัค ชูเมอร์” ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ซึ่งเป็นแกนหลักในความขัดแย้งครั้งนี้ มองว่า เป็นไปได้ที่ชัตดาวน์จะกินเวลานานหลายสัปดาห์ ไม่ใช่แค่ไม่กี่วัน เพราะขณะนี้ทั้ง 2 พรรคยังไม่มีท่าทีประนีประนอม
การเผชิญหน้าครั้งล่าสุดมาจากการที่พรรคเดโมแครตเรียกร้องให้ขยายเวลาการอุดหนุนด้านสุขภาพภายใต้กฎหมายว่าด้วยการดูแลสุขภาพในราคาที่จ่ายได้ (Affordable Care Act-ACA) หรือที่เรียกกันว่า “โอบามาแคร์” ที่จะหมดอายุในปีนี้ ซึ่งหมายถึงชาวอเมริกันหลายล้านคนจะต้องมีค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นมาก
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวโทษว่า พรรคเดโมแครตขัดขวางร่างกฎหมายงบประมาณจนนำไปสู่การชัตดาวน์
“เควิน แฮสเซตต์” ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ระบุว่า อาจมีการปลดพนักงานรัฐบาลกลางจำนวนมากเป็นการถาวร ไม่ใช่แค่ชั่วคราว หากทั้ง 2 พรรคไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
“เจฟฟ์ เลอ” อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐแคลิฟอร์เนียที่เคยเจรจาความขัดแย้งในวาระแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ มองว่า ทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะบรรลุข้อตกลงชั่วคราวได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม แต่หากยืดเยื้อนานกว่า 2 เดือน ก็อาจทำให้การดำเนินการของรัฐบาลกลางหยุดชะงักอย่างรุนแรงและอาจกระทบต่อความมั่นคง
ด้าน “เจมส์ ดรักแมน” อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ มองว่า ความดื้อรั้นของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นเหตุผลที่การเผชิญหน้ากันครั้งนี้อาจสร้างสถิติใหม่แทนการชัตดาวนในปี 2561-2562 เพราะรัฐบาลทรัมป์มองว่ามีอำนาจที่ไร้การควบคุม จึงอาจไม่ยอมประนีประนอม ขณะที่พรรคเดโมแครตก็มีแนวโน้มจะยืนหยัดท่าทีในปัจจุบันต่อไป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
