ไฟไหม้บ้านไม้ยุคสงครามโลกอายุกว่า 100 ปี ในเมืองกาญจน์ วอด 13 หลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 02.45 น. วันนี้ 4 ม.ค.64 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ย่านตลาดเก่ากาญจนบุรี บริเวณถนนปากแพรก ซึ่งอยู่ใจกลางตลาดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เทศบาลเมืองปากแพรก และท้องถิ่นที่อยู่ข้างเคียง นำรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าระงับเหตุ โดยมี ดร.เบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน รุดไปบัญชาการด้วยตนเอง
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้าน 2 ชั้น ที่ปลูกด้วยไม้และครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุกว่า 100 ปี แต่เนื่องจากบ้านที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ภายในซอยแคบ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปฉีดน้ำในระยะใกล้ได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีฉีดน้ำข้ามกำแพง จึงทำให้การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านไม้ จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อีกทั้งบ้านบริเวณดังกล่าวปลูกอย่างหนาแน่น ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีลมพัดแรง ทำให้ไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต้องช่วยกันขนข้าวของออกมาจากบ้านเพื่อหนีตายกันอย่างอลหม่าน
เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำลุกไหม้อย่างรุนแรง เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ข้างเคียง โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด โดยเจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้เปลวไฟปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ เพลิงได้เผาผลาญอาคารเสียหายไปจำนวน 13 หลัง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ เป็นบ้านไม้เก่าแก่ สภาพของสายไฟจึงอาจชำรุดทรุดโทรมและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ก็เป็นได้
แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป สำหรับค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินค่าได้ เนื่องจากเป็นอาคารเก่าแก่ทั้งหมด แต่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท