5 เขื่อนใหญ่ โคราชยังวิกฤต ฝนเทหนักแต่ไหลเข้าเขื่อนแค่ 22% ลุ้นพายุเข้าอีกช่วงปลายฝน

นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เข้าสู่ช่วงหน้าฝนมาประมาณ 3 เดือน จนถึงขณะนี้ปรากฏว่าในพื้นที่ จ.นครราชสีมา (โคราช) มีปริมาณฝนตกลงมาน้อยกว่าทุกปี ส่งผลให้น้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำต่างๆ น้อยตามไปด้วย แม้ว่าช่วงสัปดาห์นี้จะมีฝนตกลงมาบ้างในบางพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา แต่ก็มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำต่างๆ ไม่มากนัก ดังนั้นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่ง ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังมีปริมาณน้ำเหลือรวมเพียง 227.44 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 22.59 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 1,006 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ถือว่าน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2562 จะมีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 248.49 ล้านลูกบาศก์เมตร

จากการรายงานข้อมูลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่งวันนี้ (23 ส.ค.63) อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำ 93.05 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 29.59 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร, อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 26.27 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 18.63 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร, อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 49.20 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 17.89 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 38.99 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 25.15 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำลำนางรอง อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำ 19.94 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 16.42 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 121.41 ล้านลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตาม ชลประทานยังปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรได้ทำการเกษตรเป็นระยะ โดยจะติดตามประเมินสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันช่วงนี้ใกล้จะสิ้นสุดหน้าฝนแล้ว อยากขอให้ประชาชนและเกษตรกรใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง เพราะยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะมีพายุพัดผ่านเข้ามาให้อีกหรือไม่