สธ. เผย แม่-พี่สาว-สะใภ้ รับเชื้อโควิดจากเจ้าของแพปลา ยันไม่ใช่ระลอกสอง
กรณี จ.สมุทรสาคร ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 รายใหม่ภายในประเทศไทย และมีการรายงานว่าผู้ป่วยไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ
วันนี้ (18 ธันวาคม) ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงรายละเอียดการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทย
นพ.โสภณ กล่าวว่า ผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม(วานนี้) ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร(นพ.สสจ.) และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร(รพ.) ได้แถลงข่าวเบื้องต้น ว่า พบหญิงไทย อายุ 67 ปี มีอาชีพค้าขายที่แพกุ้ง ใน จ.สมุทรสาคร ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังจากที่มีอาการป่วยและไปรับการรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ทีมปฏิบัติการสอบสวนโรคในพื้นที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 ราชบุรี(สคร.5 ราชบุรี) และกองระบาดวิทยา ได้สอบสวนโรค เก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์และการไปดูพื้นที่เกิดเหตุ
นพ.โสภณ กล่าวว่า รายละเอียดของผู้ป่วยอายุ 67 ปี เป็นแม่ค้าตลาดแพกุ้ง เมื่อมีการสอบถามประวัติย้อนหลังกลับไปในช่วงประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ก่อน
เมื่อวันที่ 1-10 ธันวาคม ผู้ป่วยขายของที่ตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่เวลา 06.00 – 11.00 น. ของทุกวัน โดยไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ อยู่แต่ในพื้นที่และขายของอยู่ที่ตลาด
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม เริ่มป่วยด้วยอาการปวดเมื่อยและจมูกไม่ได้กลิ่น
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม
เวลา 18.00 น. จึงไปตรวจรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง และมีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยกลับไปรอผลที่บ้าน
เวลา 22.00 น. ผลตรวจครั้งแรกสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงติดตามผู้ป่วยเข้าระบบ ทาง รพ. ได้ส่งตรวจยืนยันอีกครั้งที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม
เวลา 02.30 น. เข้ารักษาที่ รพ.สมุทรสาคร
เวลา 08.00 น. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19
“ในการสอบสวนโรคได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ทำให้สามารถระบุผู้ที่มีความเสี่ยงและอยู่ใกล้ชิดที่เราถือว่าเป็นกลุ่มที่สัมผัสเสี่ยงสูงได้อย่างน้อย 7 ราย โดย 2 รายแรกเป็นลูกชายอายุ 31 ปี และเพื่อนลูกชายเป็นหญิงอายุ 25 ปี ซึ่งได้รับการตรวจไม่พบเชื้อ เข้ารับกักกันโรคที่ รพ.สมุทรสาคร ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 5 ราย โดย 3 ราย คือ มารดาอายุ 95 ปีเป็นผู้ป่วยติดเตียง พี่สาวคนโตอายุ 73 ปี และน้องสะใภ้อายุ 57 ปี ผลตรวจพบเชื้อ และอีก 2 คน คือ น้องชายอายุ 57 ปี และแม่บ้านอายุ 56 ปี ทำงานกลับ-ไป ผลตรวจไม่พบเชื้อแต่ได้รับการกักตัวที่ รพ.สมุทรสาคร ทั้งนี้ ได้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติมอีก 3 ราย ได้แก่ ลูกชาย และลูกจ้างชาวเมียนมาอีก 2 ราย ซึ่งคาดว่าผลการตรวจจะออกในวันนี้ ” นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวว่า โดยสรุป การสอบสวนและควบคุมโรคที่ตลาดแพกุ้ง ได้เก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากโพรงจมูก(Swab) แล้วทั้งสิ้น 165 ราย โดยมีกลุ่มเสี่ยงสูง 26 ราย ได้แก่ 1.คนในครอบครัว 7 ราย ไม่พบเชื้อ 4 รายและพบเชื้อ 3 ราย(มารดา พี่สาวและน้องสะใภ้) 2.ผู้ทำงานในแพปลาของผู้ป่วย 3 ราย ลูกชายไม่พบเชื้อ ลูกจ้างชาวเมียนมา 2 รายอยู่ในระหว่างรอผล 3.รพ.เอกชน 8 ราย ผลไม่พบเชื้อและจะตรวจซ้ำในวันที่ 23 ธันวาคม 4.แรงงานในตลาดกุ้ง 8 ราย อยู่ในระหว่างรอผล และ 5.แรงงานในตลาดไท อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 139 ราย เป็นแรงงานในตลาดกุ้ง สัญชาติไทย 14 ราย เมียนมา 125 ราย อยู่ในระหว่างรอผล และแรงงานในตลาดไทอยู่ในระหว่างดำเนินการ
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับสถานที่พบผู้ป่วยในตลาดกุ้งครั้งนี้ แบ่งเป็นโซน A รวม 4 ราย คือผู้ป่วยอายุ 67 ปี และผู้ที่ใกล้ชิดอีก 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนโซน B และหอพักมีการติดตามเฝ้าระวังอยู่ ขณะนี้ปิดตลาด 3 วันเพื่อทำความสะอาด นอกจากนี้จะมีการตรวจหาเชื้อตลาดใกล้เคียง สิ่งสำคัญต้องขอสื่อสารเรื่องการย้ำมาตรการป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัย 100% หลีกเลี่ยงไปที่ชุมชน และการเดินทางในช่วง 1-2 สัปดาห์ และขอให้มีการลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ซึ่งในพื้นที่ทุกภาคส่วนได้มีการเข้มมาตรการในพื้นที่ตนเอง โดยเฉพาะตลาด ต้องทำความสะอาดทุกตลาด ลดความหนาแน่น เว้นระยะห่าง จัดที่ล้างมือ หรือเจลแอลกอฮออล์ รวมถึงตรวจสอบปริมาณคลอรีน ในน้ำประปาทั้งต้นทาง และปลายท่อให้ได้ตามมาตรฐาน
“ขอให้ย้ำมาตรการ กินร้อน ช้อนส่วนตัว ล้างมือ สวมแมสก์ สแกนไทยชนะ กินสุก สำหรับสาเหตุของการติดเชื้อครั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค แต่ต้องติดมาจากผู้ป่วยก่อนหน้านี้ หมายความว่า การที่เราพบผู้ป่วยหญิงอายุ 67 ปี อาจไม่ใช่เป็นรายแรกเฉพาะในพื้นที่ที่เจอครั้งนี้ แต่อาจมาจากรายก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ จึงต้องมีการสอบสวนโรค แต่อย่างไรก็ตาม อยากย้ำว่า ไม่ต้องกังวลว่า เป็นการระบาดระลอกสอง เนื่องจากนิยามของคำว่าระบาดระลอกสอง คือ คนติดเชื้อต่อกันโดยไม่สามารถหาต้นตอได้ แต่กรณีนี้เรายังติดตามหาต้นตอได้อยู่” นพ.โสภณ กล่าว
ส่วนประชาชนที่กังวลในการรับประทานอาหารทะเลและอาหารดิบ นพ.โสภณ กล่าวว่า ในช่วงนี้ขอให้รับประทานอาหารสุกร้อน และเน้นมาตรการป้องกันส่วนบุคคล โอกาสที่จะมีเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนในอาหารก็จะลดน้อยลง การปนเปื้อนในอาหาร จะต้องมีผู้ติดเชื้อในชุมชนจำนวนมาก เช่น ประเทศบราซิล ที่มีการส่งออกอาหาร เมื่อมีคนติดเชื้อมาก จึงมีโอกาสที่เชื้อจะลงไปอยู่ในอาหาร แต่ในกรณีในประเทศไทยเป็นการพบผู้ติดเชื้อในจำนวนไม่กี่ราย อย่างไรก็ตามก็ขอให้ป้องกันด้วยการรับประทานอาหารสุกร้อน
ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วย 4 รายได้รับยารักษาโรคแล้วทุกราย อาการยังไม่หนักแต่ต้องรักษาต่อไป และหาสาเหตุการติดเชื้อ พร้อมทั้งตีวงการสอบสวนโรค เพื่อค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและต่ำ เพื่อตรวจหาเชื้อและกักกันโรค โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเฝ้าระวังใน รพ.ชุมชน รพ.จังหวัด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) คลินิกและร้านขายยา ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด
“ขอเน้นย้ำว่าตลาดที่พบผู้ติดเชื้อคือตลาดแพกุ้ง ไม่ใช่ตลาดทะเลไทย ส่วนข่าวที่บอกว่ามีการผู้สัมผัสเสี่ยงเป็นหมื่นราย จากการรายงานพบว่ามีอยู่ราว 100 กว่าราย แต่ตามมาตราค้นหาตีวง เราต้องค้นหาผู้ที่โอกาสป่วยมากที่สุด เพื่อการควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว อาจจะต้องกำหนดการตรวจในคนจำนวนมาก แต่ขึ้นอยู่กับข้อมูลบ่งชี้ว่าจะไปตรวจที่แหล่งใด” นพ.โอภาส กล่าว