ป้าค้ำประกันซื้อรถจนถูกยึดบ้าน ไม่มีที่ไป ขอตายที่นี่ รอไปศาลตัดสินชะตาชีวิต
ป้าค้ำประกันซื้อรถจนถูกยึดบ้าน ไม่มีที่ไป ขอตายคาบ้านที่สร้างมา ขู่ถ้ามีตายในบ้านนี้ ใครจะกล้าซื้อ รอไปขึ้นศาล 14 ก.ย. เพื่อตัดสินชะตาชีวิต
กรณี นางอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี ชาว ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไปค้ำประกันรถกระบะมือสองให้คนที่รู้จักกันในหมู่บ้าน เมื่อปี 2555 จากนั้นก็หายไป ต่อมามีหนังสือมาติดป้ายหน้าบ้าน ว่าจะยึดบ้านขายทอดตลาด ก่อนที่จะมีทนายคนหนึ่งที่เขาประมูลบ้านได้มาหา บอกว่าบ้านนี้ผมประมูลมาได้แล้ว หากอยากได้บ้านต้องหาเงินมาซื้อคืน 870,000 บาท ซึ่งนางอำไพก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหน บ้านหลังนี้สร้างมาด้วยชีวิต ต่อมานางอำไพเครียดจัดจนคิดพยายามฆ่าตัวตาย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นางอำไพ โพธิ์ประสิทธิ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนพร้อมนายสามารถ สามี สองคนตา-ยาย พร้อมทนายความเดินทางไปขึ้นศาล เพื่อไปรออีกฝ่ายให้มาเจรจากัน แต่ก็ไม่มา ศาลก็เลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 14 ก.ย. นี้ โดยคนที่ให้ค้ำรถไปก็มาบอกว่าเขาจะรับผิดชอบ เขาบอกว่า เขาส่งค่างวดรถอยู่ แต่ช่วงนั้นเขาตกงาน จึงขาดส่ง มาประนอมหนี้ ซึ่งเขาไม่เคยหนีไปไหน
ค้ำรถให้คนรู้จัก จนถูกยึดบ้าน เครียดจะผูกคอตาย หลานร้องหิวนมจึงได้สติ
“ตอนนี้ไม่มีปัญญาจะไปซื้อบ้านคืน โดยฝ่ายทนายที่ซื้อบ้านไปแจ้งมาก่อนแล้วว่า จะลดให้จาก 600,000 แสนบาท เหลือ 300,000 บาท แต่ก็ไม่ทราบว่าจะไปหาเงินจากไหน ทนายที่ซื้อบ้านบอก ถ้าไม่มีเงิน 300,000 จะให้ผ่อนเดือนละ 6,500 บาท นาน 15 ปี จึงบอกไปว่าป้าจะมีอายุอยู่ต่ออีก 15 ปีหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฝ่ายทนายที่ซื้อบ้านไปก็บอกต้องมาคุยกัน” นางอำไพ กล่าว
นางอำไพ กล่าวต่อว่า ทนายบอกว่าถ้าตนไม่มีตังค์มาซื้อตอนนี้ ก็จะหมดโอกาส ถ้าขึ้นศาลก็อยากขอความเป็นธรรมให้ตนด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน บ้านนี้สร้างมาอยู่มาตั้งแต่สาวมีอายุขนาดนี้ก็ทำได้แค่นี้ ไปถามทางธนาคารที่เคยกู้เงินก็บอกว่า ป้าโดนยึดบ้านเครดิตอะไรก็หายหมด ไม่มีใครเขาให้กู้ ขนาดรถจะไปรีไฟแนนซ์ เขาก็โทรบอกยกเลิก ตอนนี้ก็รอไปศาลจังหวัดนนทบุรีในวันที่ 14 ก.ย. นี้ ไม่ทราบว่าศาลจะตัดสินอย่างไร
“ฝ่ายผู้ซื้อรถบ้านก็อยู่ที่นนทบุรี แต่ไม่ยอมบอกว่าทำงานอยู่ที่ไหน แฟนเขาก็กำลังท้อง ถ้าวันที่ 14 ก.ย. นี้ศาลตัดสินให้ป้าต้องออกจากบ้าน ป้าก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ไหน ส่วนสามีก็บอกว่า ทนายที่ซื้อบ้านไปจะเอาบ้านนี้ไปขายให้กับใคร ถ้ามีเรา 2 คนตายอยู่ในบ้านนี้ ใครจะกล้าซื้อ
เรื่องลงข่าวถึงขนาดนี้ ถ้าลุงกับป้าตายในบ้านหลังนี้ใครเขาก็รู้ เจ้าของบ้านเขาตายคาบ้าน ใครจะมาซื้อก็ลองดู ในเมื่อสร้างมาทั้งชีวิต ชีวิตก็ให้ได้เหมือนกัน สามีป้าบอกไว้อย่างนั้น ทุกวันนี้ป้าต้องอาศัยเย็บผ้าเช็ดเท้าส่งโรงงาน พอมีรายได้ประทังชีวิต อยู่กับสามี พร้อมหลานสาว รอไปพบศาลวันที่ 14 ก.ย.เพื่อตัดสินชะตาชีวิต” ป้าอำไพ กล่าว