รีเซต

ปี 2569 ททท. พลิกโฉมท่องเที่ยวไทยครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปี ปักหมุดเป้าหมายความยั่งยืน

ปี 2569 ททท. พลิกโฉมท่องเที่ยวไทยครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปี ปักหมุดเป้าหมายความยั่งยืน
TNN ช่อง16
26 ธันวาคม 2568 ( 09:00 )
15

ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ท่ามกลางภาพการฟื้นตัวที่ไม่ได้เดินหน้าไปพร้อมกันทั้งหมด แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 แต่รายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศไทยยังคงเติบโต สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากการเน้นปริมาณ สู่การมุ่งคุณภาพ และกำลังการใช้จ่ายต่อหัวที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวตลาดหลักโดยเฉพาะจีน กำลังกลายเป็นโจทย์ท้าทายที่ภาครัฐบาทและเอกชนต้องเร่งปรับกลยุทธ์รับมือในปีนี้


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท. ) ได้ประเมินว่าปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจเหลือเพียง 32 ล้านคน ลดลงประมาณ 9.8% จากปีก่อนที่ 35.5 ล้านคน ด้านนโยบายภาครัฐและแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว ททท.ได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชน  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ จัดกิจกรรมกระตุ้นจิตวิทยาการเดินทางท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี โดยเฉพาะการจัดกิจกรรม Amazing Thailand Countdown 2026 กระจายทั่วประเทศทั้งเมืองหลัก อาทิ พัทยา จ.ชลบุรี, หาดป่าตอง – แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต, ประตูท่าแพ ถ.นิมมานฯ  จ.เชียงใหม่ และเมืองน่าเที่ยว อาทิ กว๊านพะเยา จ.พะเยา, จ.พิษณุโลก จัดเคานต์ดาวน์กลางสวนสาธารณะในเมือง, จ.อุดรธานี จัดเคานต์ดาวน์งานในย่าน UD Town ฯลฯ


เเละกิจกรรมหลักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ งานวิจิตรเจ้าพระยา 9 พฤศจิกายน-23 ธันวาคมนี้ , ศูนย์การค้าขนาดใหญ่อาทิ ไอคอนสยาม, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน ฯลฯ เบื้องต้นททท.คาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวงาน Countdown 2026 ในช่วง 7 วันสุดท้ายของปี 2568 ราว 2 ล้านคน สร้างรายได้ราว 5 พันล้านบาท

ข้อมูลล่าสุดของปีนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้อัปเดทสถานการณ์ท่องเที่ยวล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 7 ธ.ค. 68 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย แล้วทั้งสิ้น 30,273,872 คน ลดลง 7.19 % สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,405,480 ล้านบาท 


โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย สูงสุด 5 แรก


อันดับ 1 มาเลเซีย 4,234,976 คน

อันดับ 2  จีน 4,184,791 คน

อันดับ 3 อินเดีย 2,280,823 คน

อันดับ 4 รัสเซีย 1,685,931 คน

อันดับ 5 เกาหลีใต้ 1,438,827 คน


 แม้จำนวนผู้มาเยือนจะขยายตัวไม่สม่ำเสมอเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนกลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากตลาดระยะไกลในยุโรปและตะวันตก ขณะที่ตลาดจีนซึ่งเคยเป็นแรงขับเคลื่อนหลักยังฟื้นตัวช้ากว่าคาด ส่งผลให้ภาพรวมการท่องเที่ยวปีนี้ถูกขับเคลื่อนด้วย “รายได้” มากกว่า “จำนวนคน” และสะท้อนแนวโน้มเชิงโครงสร้างที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกำลังปรับตัวเข้าสู่การแข่งขันด้านคุณภาพ ประสบการณ์ และความยั่งยืนมากขึ้น 


อย่างไรก็ดีทาง ททท.ยังคงเดินหน้าขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวจีนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ลงนามร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยว วัฒนธรรม วิทยุ โทรทัศน์และกีฬา เมืองไหโขว่ มณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน และบริษัทให้บริการแพลตฟอร์มท่องเที่ยวครบวงจรของจีน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนและเปิดตลาดการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศในรูปแบบ Two Way Tourism ตลอดจนแลกเปลี่ยนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การจัดกิจกรรมประเภทงาน Fair, Road Show, Trade Show การแลกเปลี่ยน KOLs การพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว


รวมถึงการสร้างการรับรู้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมาไทยมากขึ้นโดยได้แต่งตั้ง ลิซ่า ลลิษา มโนบาล เป็นทูตการท่องเที่ยว Amazing Thailand Ambassador ปี 2569 เพื่อโปรโมตเสน่ห์ของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกและคาดหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพให้มาไทยมากขึ้นผ่านแคมเปญสื่อระดับโลก เบื้องต้นตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยจากกิจกรรมข้างต้น 5-10 ล้านคนในปี 2569

สำหรับปี 2569 ททท. เตรียมแผนกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนเต็มกำลัง หลังประเมินทิศทางฟื้นตัวชัดเจน ตั้งเป้าปี 2569 ดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย 6.7 ล้านคน หรือเติบโต ไม่ต่ำกว่า 40% จากปี 2568 พร้อมจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่ของจีน อัดแคมเปญการตลาด ทุกเดือนตลอดปี 


โดยจะใช้แคมเปญร่วมกันระหว่างประเทศไทยและจีน ภายใต้แนวคิด “จงไท่อี้ เจียซิน ไทย–จีน ครอบครัวเดียวกัน” ผ่านการจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวทุกเดือน เช่น อีเวนต์ประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย และเทศกาลประเพณีต่าง ๆ รวมถึงการร่วมมือกับสำนักงานการท่องเที่ยว วัฒนธรรม วิทยุ โทรทัศน์ และกีฬา เมืองไหโข่ว ประเทศจีน และได้ลงนามหนังสือเจตจำนง (LOI) ร่วมกับบริษัทถงเฉิง แทรเวล ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจองสินค้าและบริการออนไลน์ครบวงจร เช่น ตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ 20 อันดับแรกของจีน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ หรือ ทูเวย์ทัวร์ริสซึ่ม (Two-Way Tourism)


 ททท. ร่วมมือกับเมืองไหโข่ว เกาะไห่หนานของจีน เนื่องจากมีศักยภาพและทรัพยากรธรรมชาติที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เชื่อมโยงระหว่างสองประเทศได้ โดยใช้จุดแข็งของทั้งสองประเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน (Win-Win) นอกจากนี้ บริษัทถงเฉิงฯ ยังมีบริการครบวงจรที่สามารถสร้างการรับรู้สูงในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและทั่วโลก จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีนสามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว


ไห่หนานยังมีการบริหารจัดการท่องเที่ยวและธุรกิจไมซ์ (MICE) ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการจัดงานเอนเตอร์เทนเมนต์และคอนเสิร์ต ซึ่งได้มีการจัดงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ททท. จึงตั้งเป้าหมายจะดึงงานคอนเสิร์ตและแฟนมีตติ้งมาจัดในประเทศไทยมากขึ้น ผ่านความร่วมมือครั้งนี้


ทั้งนี้ ปี 2569 แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยคาดว่าจะเข้าสู่ช่วง “ฟื้นตัวเชิงคุณภาพอย่างชัดเจนขึ้น” มากกว่าการเร่งตัวเชิงปริมาณ โดยแรงขับเคลื่อนหลักยังมาจากนักท่องเที่ยวระยะไกลและกลุ่มกำลังซื้อสูง ขณะที่ตลาดจีนมีโอกาสทยอยกลับมา แต่ไม่น่าฟื้นตัวรวดเร็วเหมือนในอดีต ภาพรวมรายได้จากการท่องเที่ยวจึงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้จำนวนผู้มาเยือนอาจเพิ่มขึ้นในอัตราจำกัด ปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางปี 2569 คือเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย การแข่งขันในภูมิภาค และความสามารถของไทยในการยกระดับโครงสร้างการท่องเที่ยว ตั้งแต่คุณภาพบริการ โครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความยั่งยืนในระยะยาว


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง