เปิดไทม์ไลน์ติดโควิดดับ 2 ราย พบเสมหะมีเลือดปน ปอดอักเสบรุนแรง-ระยะเวลารวดเร็ว

เปิดไทม์ไลน์ติดโควิดดับ 2 ราย พบอาการเสมหะมีเลือดปน ปอดอักเสบรุนแรง-ระยะเวลารวดเร็ว ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิต

วันที่ 20 เม.ย.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่าทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 143.5 ล้านราย เพิ่มขึ้น 8.24 แสนราย เสียชีวิตสะสม 3.05 ล้านราย เพิ่มขึ้น 13,905 ราย อัตราตายคิดเป็น 2.1% สหรัฐอเมริกา อินเดีย และบราซิล ยังมีการติดเชื้อและเสียชีวิตสูงสุด 3 อันดับแรก โดยอินเดียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 294,290 ราย หรือเกือบ 3 แสนรายในวันเดียว เสียชีวิต 2,020 ราย บราซิลติดเชื้อวันเดียว 73,172 ราย ตุรกี 61,028 ราย ในเอเชีย อินโดนีเซียก็เพิ่มต่อเนื่อง 5,549 ราย มาเลเวีย 2,341 ราย กัมพูชา 431 ราย

ส่วนประเทศไทยขยับขึ้นอันดับ 106 ของโลก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,458 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,454 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย รักษาหายเพิ่ม 413 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 46,643 ราย หายป่วยแล้ว 29,371 ราย กำลังรักษา 17,162 ราย ส่วนใหญ่อยู่ใน รพ. 13,797 ราย รพ.สนามและอื่นๆ 3,365 ราย ส่วนอาการหนักมี 259 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 66 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตสะสม 110 ราย ส่วนระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. มีผู้ติดเชื้อสะสม 17,780 ราย เสียชีวิต 16 ราย

ผู้เสียชีวิต 2 รายใหม่ ได้แก่ 1.หญิงไทยอายุ 56 ปี กทม. มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไตวายเรื้อรัง และภาวะอ้วน มีประวัติเริ่มมีไข้ไอวันที่ 10 เม.ย. ตรวจเชื้อวันที่ 13 เม.ย. ผลยืนยันวันที่ 14 เม.ย. โดยวันที่ 17 เม.ย. เข้ารับการรักษา มีอาการเหนื่อยหอบ เอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง วันที่ 19 เม.ย. ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตเวลา 16.19 น.

2.ชายไทยอายุ 32 ปี นนทบุรี มีโรคประจำตัวภูมิแพ้ วันที่ 4 เม.ย.มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ วันที่ 8 เม.ย. เริ่มมีไข้ต่ำ ไอ เสมหะปนเลือด วันที่ 15 เม.ย. เหนื่อยมากขึ้น วันที่ 16 เม.ย. เข้ารับการรักษาที่ รพ. เอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง ระยะเวลาค่อนข้างรวดเร็ว อาการแย่ลงเสียชีวิต วันที่ 19 เม.ย.

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า กราฟผู้ติดเชื้อยังขึ้นๆ ลงๆ แต่ยังสูงอยู่ การติดเชื้อใหม่ชะลอตัวอยู่ที่ไม่เกินพันเศษๆ กำลังพยายามไม่ให้ตัวเลขสูงไปกว่านี้ การคัดกรองเชิงรุก เมื่อพบผู้ติดเชื้อไปติดตามค้นหาพื้นที่เสี่ยงและค้นหาเชิงรุกตามไทม์ไลน์ที่ผู้ป่วยให้ประวัติ ก็จะพบการติดเชื้อของผู้สัมผัส ตัวเลขค่อนข้างสูงเช่นกัน ทั้งนี้ กทม.ติดเชื้อ 365 ราย สะสม 4,329 ราย ปริมณฑล 205 ราย สะสม 2,656 ราย และจังหวัดอื่นๆ รวม 884 ราย สะสม 10,646 ราย แยกตามปัจจัยเสี่ยง พบว่าสถานบันเทิงยังมีอยู่ 104 ราย ตลาดชุมชน 138 ราย และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ 1,212 ราย ยังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป้นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คนไปสถานที่เสี่ยงไม่ได้ตระหนักว่าตนเองติดเชื้อและกิดการติดเชื้อในครอบครัว ทำให้พบการติดเชื้อสูงขึ้น ส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้ 4 ราย ได้แก่ ญี่ปุ่น 3 ราย และมาเลเซีย 1 ราย

จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด 6 อันดับ กทม. ยังพบ 365 ราย เชียงใหม่ 134 ราย ชลบุรี 80 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 47 ราย นนทบุรี 69 ราย และสมุทรปราการ 39 ราย ระยะหลังตัวเลขนนทบุรี สมุทรปราการเริ่มเล็กลงแต่ยังมีรายงานต่อเนื่อง ส่วนหลายจังหวัดมีพฤติกรรมใกล้เคียงกัน พัทลุงเป็นเรื่อการจัดงานเลี้ยง กลุ่มก้อนใหญ่คือติดเชื้อผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้าและทำให้เกิดการติดเชื้อในครอบครัวและชุมชนมีรายงานเพิ่มขึ้น ภาพรวมประเทศไทยรายสัปดาห์มีการติดเชื้อรวม 77 จังหวัด ส่วนการติดเชื้อในประเทศรายวัน จะเห็นทิศทางการปรับสี ตรงกลางประเทศที่เป้นสีเขียวมี 1-10 รายต่อวัน กลายเป็นสีขาวไม่มีติดเชื้อ ถือว่าลดลง และบางพื้นที่สีเหลืองมีติดเชื้อ 11-50 รายต่อวัน ก็กลายเป็นสีเขียว โดยวันนี้พบ 67 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นสีเขียว คือ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1-10 ราย จำนวน 38 จังหวัด เป็นสีเหลืองมีติดเชื้อ 11-50 ราย 23 จังหวัด สีส้ม 51-100 ราย พบ 4 จังหวัด ส่วนสีแดงเกิน 100 ราย พบ 2 จังหวัด