เตือนทำสวนในยุคโลกรวน ต้องปรับตัวรับโลกร้อน

สภาพอากาศที่แปรปรวนจากวิกฤตภูมิอากาศกำลังส่งผลต่อพฤติกรรมของพืชสวนในออสเตรเลียอย่างเห็นได้ชัด ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ากฎเก่าในการทำสวนอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป พร้อมแนะให้ประชาชนปรับตัวด้วยการเลือกพืชที่ทนต่ออากาศร้อนและแห้ง แล้วยึดหลักความยั่งยืนในการจัดการพื้นที่สีเขียว
ศาสตราจารย์แองเจลา โมลส์ จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่าพืชหลายชนิดกำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการเจริญเติบโต รวมถึงการเปลี่ยนถิ่นกระจายพันธุ์ในลักษณะที่คาดไม่ถึง โดยมีบางชนิดย้ายกลับไปยังพื้นที่อุ่นขึ้น แม้จะเป็นพืชที่เคยเติบโตในเขตเย็นก็ตาม โดยระบุว่าขณะนี้เราอยู่ในภาวะที่พันธุ์พืชจำนวนมากเริ่มปรับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความท้าทายต่อทั้งการทำสวนและการอนุรักษ์พืชในระยะยาว พร้อมระบุว่าความไม่สอดคล้องกันระหว่างช่วงเวลาออกดอกของพืชกับช่วงเวลาการปรากฏตัวของแมลงผสมเกสรก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้านแคลร์ ฮาร์ต ผู้อำนวยการฝ่ายพฤกษศาสตร์ สวนพฤกษศาสตร์หลวงเมลเบิร์น กล่าวว่า ทีมงานได้เริ่มวางแผนรับมือสภาพภูมิอากาศในอนาคตมาตั้งแต่ปี 2016 โดยคาดการณ์ว่าอุณหภูมิในเมลเบิร์นจะเพิ่มขึ้น 3 องศาเซลเซียส พร้อมปริมาณน้ำฝนที่ลดลง โดยมุ่งเน้นการปรับตัว เพราะการลดผลกระทบยังดำเนินไปช้าเกินไป พร้อมเผยว่าทีมงานได้ทดลองปลูกพืชจากพื้นที่แห้งแล้งของออสเตรเลีย เช่น หญ้าจิงโจ้ ต้นเฟลมทรี และลิลลี่ชนิดต่าง ๆ เพื่อดูว่าพืชชนิดใดสามารถอยู่รอดในสภาพอากาศใหม่ได้ดีที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำแนวทางเบื้องต้นสำหรับการทำสวนอย่างยั่งยืนในยุคโลกรวน ได้แก่ การสังเกตพืชที่เติบโตดีในละแวกบ้าน การทำความเข้าใจลักษณะภูมิอากาศย่อยในพื้นที่ของตน การเลือกซื้อพืชจากแหล่งที่มีความรู้ในท้องถิ่น รวมถึงการใช้เครื่องมือออนไลน์ เช่น Climate Assessment Tool และฐานข้อมูล Which Plant Where เพื่อช่วยตัดสินใจเลือกพืชให้เหมาะกับอนาคต
ขณะเดียวกัน การปลูกพืชบนแถบทางเดิน (nature strip) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ลดจุดความร้อนในเมือง และสนับสนุนเส้นทางการอพยพของสัตว์ป่าและแมลงที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศในเมือง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
