รีเซต

หวังอี้ชี้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 'จีน-อาเซียน' แข็งแกร่งและยืดหยุ่น มีศักยภาพมหึมา

หวังอี้ชี้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 'จีน-อาเซียน' แข็งแกร่งและยืดหยุ่น มีศักยภาพมหึมา
Xinhua
19 ตุลาคม 2563 ( 13:10 )
178
หวังอี้ชี้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 'จีน-อาเซียน' แข็งแกร่งและยืดหยุ่น มีศักยภาพมหึมา

(แฟ้มภาพซินหัว : พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย พบกับหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ณ กรุงเทพมหานคร วันที่ 15 ต.ค. 2020)

 

ปักกิ่ง, 18 ต.ค. (ซินหัว) -- หวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ชี้ถึงความสำคัญของการร่วมมือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ทั้งในด้านเศรษฐกิจการค้า สาธารณสุข ลัทธิพหุภาคี และเทคโนโลยีระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันศุกร์ (16 ต.ค.) หลังจากหารือกับพลเอกลูฮุท บินซาร์ ปันด์จัยตัน ทูตพิเศษของประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และทีโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน

 

รวมถึงหลังจากเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา มาเลเซีย ลาว ไทย และสิงคโปร์หวังกล่าวว่าจีนพร้อมช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ให้เข้าถึงและสามารถจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรค ช่วยให้เอาชนะโรคระบาดในท้ายที่สุด และช่วยคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชนในภูมิภาคและรอบโลก หวังกล่าวว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกนั้นยึดมั่นค่านิยมที่เน้นความสามัคคีปรองดองและความร่วมมือมาเนิ่นนาน สอดประสานกับกระแสธารแห่งยุคโลกาภิวัตน์ เจริญรอยตามเส้นทางอันถูกต้องของลัทธิพหุภาคี และยึดถือโครงสร้างระดับภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง สิ่งเหล่านี้ช่วยรับรองความราบรื่นและความแข็งแกร่งของการพัฒนาความร่วมมือภูมิภาคเอเชียตะวันออก การบรรลุผลลัพธ์สำคัญที่สร้างแรงเชิงบวก การพลิกเปลี่ยนภูมิภาคนี้ให้มีพละกำลังและศักยภาพทางการพัฒนาที่ดีที่สุดในโลก และการเป็นหนึ่งในผู้นำการต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของโลก

 

ตลอดจนการเร่งฟื้นฟูในยุคหลังโรคระบาดใหญ่อีกด้วยหวังเน้นย้ำว่าประวัติศาสตร์และข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ว่าโครงสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลางนั้นเหมาะสมกับสถานการณ์ของภูมิภาค ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย และมีพลังแข็งแกร่ง นอกจากนั้นจีนยังเป็นประเทศใหญ่ประเทศแรกที่ตกลงเข้าร่วมสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) และเดินหน้าการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับอาเซียน และเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ประเทศแรกที่จัดตั้งเขตการค้าเสรีกับอาเซียน การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งและการยกระดับสายสัมพันธ์จีน-อาเซียน ได้ส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาคนี้อย่างยิ่งยวด ซึ่งจีนจะยังคงร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียนพร้อมยึดมั่นลัทธิพหุภาคีที่มีอัตลักษณ์เอเชียตะวันออก ปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของความร่วมมือระดับภูมิภาค และปกป้องกรอบการปฏิบัติงานของความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อการมีส่วนร่วมเชิงบวกในการธำรงการพัฒนาอย่างสันติและรุ่งเรืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกหวังกล่าวว่าด้วยสถานการณ์โลกปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศได้รุดหน้าอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจและเทคโนโลยีดิจิทัลรูปแบบใหม่ อาทิ อีคอมเมิร์ซ การประชุมผ่านวิดีโอ การแพทย์ออนไลน์ และการศึกษาออนไลน์ กลายเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ที่ป้องกันผลกระทบเชิงลบจากโรคระบาดใหญ่และส่งเสริมการฟื้นฟูอย่างไรก็ดี

 

หวังชี้ว่าการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและ "การกลั่นแกล้งด้วยข้อมูล" (data bullying) ที่แพร่หลาย ทำให้ความปลอดภัยทางข้อมูลกลายเป็นข้อวิตกกังวลร่วมกันของทุกประเทศ ซึ่งจีนได้นำเสนอหนทางแก้ไขสภาวการณ์ดังกล่าวด้วยแผนริเริ่มความปลอดภัยทางข้อมูลระดับโลก (Global Initiative on Data Security) ณ การประชุมคณะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 53 และการประชุมที่เกี่ยวข้องในเดือนกันยายน ฟิลิปปินส์ในฐานะตัวแทนกลุ่มประเทศอาเซียน เผยว่าแผนริเริ่มฯ ของจีนสะท้อนข้อวิตกกังวลร่วมกันของทุกประเทศ และกลุ่มประเทศอาเซียนจะร่วมมือกับฝ่ายจีนเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านการบริหารปกครองทางดิจิทัลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกอย่างแข็งขันหวังทิ้งท้ายว่าขณะนี้เขาได้แนะนำแผนริเริ่มฯ ของจีนแก่กลุ่มผู้นำและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของประเทศต่างๆ ซึ่งล้วนตอบรับและเห็นพ้องด้วย รวมถึงแสดงความเต็มใจจะดำเนินการวิจัยและหารือเชิงลึกต่อไป เพื่อจัดทำแผนงานที่ลงรายละเอียด จำเพาะ และน่าเชื่อถือ

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีลาว พบกับหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ณ นครหลวงเวียงจันทน์ของลาว วันที่ 14 ต.ค. 2020)

 

(แฟ้มภาพซินหัว : หวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ร่วมงานแถลงข่าวกับฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย วันที่ 13 ต.ค. 2020)

 

(แฟ้มภาพซินหัว : วิเวียน บาลากริชนัน (ขวา) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ พบกับหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ณ ท่าอากาศยานชางงีของสิงคโปร์ วันที่ 13 ต.ค. 2020

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง