พยากรณ์อากาศวันนี้ 15 ตุลาคม 2568 อุตุฯ เตือนฝนเพิ่มทั่วประเทศ กทม. ตกหนักมาก

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนกรุงเทพฯ ฝนตกหนักมาก

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมี ฝนตกหนักถึงหนักมาก บางพื้นที่ โดยเฉพาะ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงภาคตะวันออก เนื่องจากคลื่นกระแสลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทย

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนในหลายพื้นที่ให้ระวังอันตรายจาก ฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก และน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง และควรพกร่มหรือเสื้อกันฝนเมื่อต้องออกนอกบ้าน

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย คลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศรายภาค (เวลา 18.00 น. วันนี้ – 18.00 น. วันพรุ่งนี้)

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 21–25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30–34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 5–15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22–24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31–34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10–20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
อุณหภูมิต่ำสุด 23–25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31–34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10–20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24–25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30–33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 22–25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31–34 องศาเซลเซียส

• ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมแปรปรวน ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22–26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31–34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24–25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30–34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10–20 กม./ชม.

คำแนะนำจากกรมอุตุนิยมวิทยา:

ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และอันตรายจากฟ้าผ่า โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงค่ำของแต่ละวัน ส่วนชาวเรือควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง