ลุงสายเปย์อยากมีคู่ หลงรักรูปสวย แชทคุยเป็นปี สูญนับแสน เจอตัวจริงถึงกับสะดุ้ง
รวบโจรสาวอ้างเป็นตชด.หญิง ใช้รูปเฟซไม่ตรงปกหลอกลุงสายเปย์อยากมีคู่ แชทคุยนานนับปี สุดท้ายรู้ตัวโดนหลอกก็สูญเป็นแสน เจอตัวจริงถึงกับสะดุ้ง
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 64 นายประเสริฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ชาวอ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นำภาพถ่ายหลักฐานการติดต่อทางแอพพลิเคชั่นไลน์และเฟชบุ๊ก กับหญิงคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า นางพีรพัฒน์ หรือ สวย อายุ 58 ปี ชาวจ.นครสวรรค์ เข้าพบผู้กำกับการ สภ.สันกำแพง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังอ้างว่าถูกนางพีรพัฒน์ หลอกให้โอนเงิน และสูญเงินไปกว่า 2 แสนบาท และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.สันกำแพง เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.63
จากการสอบปากคำ นายประเสริฐ เล่าว่า เล่นเฟซบุ๊กกับสาวชื่อสวย ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่เคยพบหน้ากันเลย ด้วยความหลงรัก ในรูปทางเฟซบุ๊ก หลงกลอุบาย บอกว่าเป็นตำรวจตชด.หญิง ไม่อยากจะอยู่แล้ว อยากมาใช้ชีวิตคู่กับคุณลุง หลงกลอุบายหว่านล้อม เสียเงินหลักแสน หลอกให้คุณลุงโอนเงินช่วยเหลือหลายครั้ง โดยไม่เคยเห็นหน้าและตัวจริง
สุดท้ายรู้ตัวถูกหลอก เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และทางเจ้าหน้าที่ขออนุมัติออกหมายจับ สุดท้ายตำรวจ บก.ปฏิบัติการพิเศษ กก.4 จับตัวผู้ต้องหาได้ที่กรุงเทพมหานคร ส่งตัวมาให้ร้อยเวร สภ.สันกำแพง ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงทรัพย์โดย แสดงตนเป็นบุคคลอื่น
โดยวันนี้นายประเสริฐเดินทางมาดูตัวผู้ต้องหา ที่ปลอมแปลงหน้าเฟซ โดยเห็นหน้าแล้วถึงกับสะดุ้ง เป็นคนละคนกันกับรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊ก เและไม่ได้ทำงานเป็นตำรวจ ตชด. ทราบอีกทีทำงานเป็นรปภ.บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งคุณลุงบอกกับผู้สื่อข่าว แอบหลงรักมานาน ไม่น่ามาหลอกกัน ยืนยันจะดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ
ในการจับกุมครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายางานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง ประสานไปยังกองบังคับการกองปราบปราม และขออนุมัติหมายจับ และนำกำลังเข้าจับกุมตัวนางพีรพัฒน์ได้ที่บ้านพักในเขตหนองแขม และควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.สันกำแพง
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า รู้จักกับนางพีรพัฒน์ทางเฟชบุ๊ก และให้เบอร์โทรศัพท์โทรคุยกันตลอด จนติดต่อทางไลน์นานนับปี โดยตลอดระยะเวลาที่ติดต่อกันนางพีรพัฒน์อ้างว่าเป็นตำรวจหญิงสังกัด ตชด.ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีสถานะโสด และใช้รูปถ่ายหญิงหน้าตาดีส่งให้ตนดู
โดยบอกว่าเป็นตนเอง จะลาออกจากตำรวจแล้วมาอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่ ตลอดจนใช้กลอุบายต่างๆหลอกให้ตนโอนเงินไปให้ อาทิ น้องชายเสียชีวิต ต้องใช้เงินในการทำศพ รถเกิดอุบัติเหตุ และอื่นๆอีกหลายอย่าง จนตนหลงเชื่อโดนเงินไปให้ทุกครั้งๆ ละหลายพัน จนถึงหลายหมื่น รวมแล้วกว่า 2 แสนบาท
พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สภ.สันกำแพง ฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้สื่อ สังคมออนไลน์ในการแอบอ้าง หลวกลวงเอาทรัพย์สินและหากประชาชนท่านที่เคยตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน ให้เข้าดำเนินการแจ้งความและดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สภ.สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ ก่อเหตุกับเหยื่อมาแล้วหลายราย เบื้องต้นถูกดำเนินคดี ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และพรบ.คอมพิวเตอร์