เยียวยาเหยื่อรถทัวร์ไหม้ ดับ-สาหัส รายละ 1 ล้าน หนุ่มวัย 19 เล่านาทีหนีตาย ได้กลิ่นก๊าซ
เยียวยาเหยื่อรถทัวร์ไหม้ ดับ-สาหัส รายละ 1 ล้าน หนุ่มวัย 19 เล่านาทีหนีตาย ได้กลิ่นก๊าซ เสียงระเบิดก้อง
เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่โรงพยาบาลสิรินธร อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารของบริษัท 407 พัฒนาทัวร์ สายอุดรธานี-กรุงเทพมหานคร เกิดอุบัติเหตุยางระเบิดจนทำให้เกิดเพลิงไหม้รถทัวร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย และเสียชีวิต 5 ราย ก่อนจะมอบกระเช้า ให้กับผู้ได้รับจำนวน 3 ราย ที่กำลังนอนรักษาตัว
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ได้ปรานให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ได้เข้ามาเยียวยา ค่าใช้ใช้ในสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียชีวิต โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 12 ราย จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนผู้เสียชีวิตทาง คปภ. มีเกณฑ์ในการจ่ายเงินค่าสินไหม จากบริษัทประกันภัย ที่เจ้าของบริษัทรถทัวร์ได้ทำไว้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทราบข่าวได้กำชับมายังพื้นที่ให้มีการตรวจสอบช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตรวมทั้งครอบครัวและผู้บาดเจ็บทุกราย ซึ่งทาง คปภ.และบริษัทประกันภัยรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมร่วมกันและสรุปค่าเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตรายละ 1.1 ล้านบาท ตามสิทธิที่จะได้รับจากประกันภัยและ พ.ร.บ.รถ โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขณะนี้ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือ น.ส.สุกัญญา เกดหอม อายุ 20 ปี ชาว ต.เมืองเพียง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ส่วนที่เหลืออีก 4 รายยังไม่ทราบชื่อ อายุ และที่อยู่
ด้านนายปัญจพล ภาคสังข์ อายุ 19 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เล่าวินาทีของอุบัติเหตุครั้งนี้ ตนเองได้ขึ้นรถมาจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุดรธานี เพื่อที่เดินทางเข้าไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร โดยตนเองอยู่ที่ชั้น 2 บริเวณกลางรถ จากนั้นรถได้ออกจากจังหวัดอุดรธานีเวลาประมาณ 21.00 น. โดยตนเองได้หลับจนกระทั่งมารู้สึกตัวตอนที่รถทัวร์ ได้เข้าไปเติมก๊าซ NGV ที่บ้านสำราญ อำเภอเมืองขอนแก่น
จากนั้นวิ่งมาบนถนนมิตรภาพ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงยางล้อรถระเบิด ไม่นานได้ยินเสียงระเบิดจากท้ายรถ หันไปเห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้ พร้อมกับกลิ่นก๊าซที่เหม็นมาก จึงได้วิ่งลงมาจากรถทัวร์และก่อนจะวิ่งเข้าป่าข้างทาง และยังได้ยินเสียงระเบิดอีก 1 ครั้ง ต่อจากนั้นรถทัวร์ไฟลุกท่วมก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะมารับตัวไปส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาตัว
พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้น ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 ราย ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลสิรินธร และโรงพยาบาลขอนแก่น ส่วนผู้โดยสารอีก 16 ราย ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว ในส่วนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายพัศดี คำคอน อายุ 48 ปี พนักงานขับรถทัวร์ คือ “ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ” และให้มีการควบคุมตัวไว้แล้ว จากการได้พูดคุยกับนายพัศดี คนขับรถทัวร์ได้บอกว่า ขณะที่ขับรถทัวร์จากต้นทางจังหวัดอุดรธานี เพื่อไปส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพมหานคร
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ล้อหลังด้านหลังคนขับได้เกิดระเบิด ก่อนที่จะเกิดประกายไฟขึ้น โดยคนขับรถได้พยายามขับรถเข้าข้างทาง จากนั้นได้เปิดประตูให้ผู้โดยสารลง ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้นเพราะเนื่องจากรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าว มีการติดตั้งแก๊ส NGV มาในรถเกิดระเบิดขึ้นจากด้านหลังรถ ไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุนั้นขณะนี้รอเจ้าหน้าที่วิศวกรทางกรมขนส่งทางบก และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 เดินทางมาตรวจสอบอีกครั้ง โดยรถทัวร์คันดังกล่าวได้มีการตรวจสภาพรถเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งยางรถได้มีกาเปลี่ยนใหม่เช่นกัน
ทางด้าน พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านแฮด กล่าวว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน ได้นำตัวนายพัศดี คำคอน อายุ 48 ปี พนักงานขับรถทัวร์โดยสารกันเกิดเหตุ มาสอบปาก โดยทราบว่าขณะที่เพลิงลุกไหม้ นายพัศดีได้ใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นใส่ไฟที่ลุกไหม้ พร้อมกับให้ผู้โดยสารลงจากรถ ส่วนการตรวจร่างกายหาสารเสพติด โดยผลออกมาไม่พบสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์
จากรายงานพนักงานสอบสวนระบุว่ารถทัวร์คันดังกล่าว ได้เติมเชื้อเพลิงประเภทก๊าซ NGV โดยก่อนเกิดเหตุได้แวะเติมที่สถานีบริการในพื้นที่ตำบลสำราญ อำเภอเมืองขอนแก่น ก่อนจะขับมาได้ประมาณ 30 กิโลเมตร แล้วเกิดเหตุสลดขึ้น จากนี้จะให้ขนส่งจังหวัดขอนแก่น มาตรวจสอบว่า รถทัวร์คันนี้ได้มีการขอจดทะเบียนติดตั้งก๊าซ NGV ถูกต้องตามกฎกระทรวงคมนาคมหรือไม่