นวดบิดคอ อันตรายถึงชีวิต! บทเรียนจาก ผิง ชญาดา
การนวดบิดคอ ความเสี่ยงซ่อนเร้นที่ควรเข้าใจและระวัง
การเสียชีวิตของ "ผิง ชญาดา" นักร้องสาวผู้เคยออกมาเตือนถึงอันตรายจากการนวดบิดคอ เป็นจุดเริ่มต้นของการตระหนักรู้ในวงกว้างถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากวิธีการนวดที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ความจริงที่ปรากฏทำให้เราต้องกลับมาทบทวนถึงความปลอดภัยของการนวดและความสำคัญของการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพส่วนนี้
เรื่องราวของผิง ชญาดา สัญญาณเตือนจากประสบการณ์ตรง
ผิง ชญาดาเริ่มต้นการนวดบิดคอเพียงเพื่อหวังบรรเทาอาการปวดไหล่และเมื่อยล้าตามปกติ เธอเข้ารับการนวดครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่จังหวัดอุดรธานี โดยมีการบิดคอเป็นส่วนหนึ่งของการนวด หลังจากนั้นไม่นาน เธอเริ่มมีอาการปวดท้ายทอย ซึ่งเธอเข้าใจว่าเป็นอาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง จึงเลือกที่จะกลับไปนวดที่เดิมซ้ำอีก แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการของเธอกลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
อาการเริ่มต้นจากความชาและเจ็บเสียวเหมือนไฟช็อตที่ปลายนิ้ว และค่อยๆ ลุกลามไปยังแขน ขา และร่างกายส่วนอื่นๆ ซีกขวาของร่างกายเริ่มอ่อนแรงจนไม่สามารถใช้งานได้ อาการเหล่านี้ไม่ได้บรรเทาลง แม้เธอจะพยายามใช้ยาและการนวดซ้ำ แต่กลับยิ่งแย่ลงจนกระทั่งเธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในที่สุด
การจากไปของเธอในเวลาต่อมา เป็นเหตุการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของการนวดโดยเฉพาะในส่วนคอ และความเสี่ยงที่หลายคนอาจไม่เคยรับรู้มาก่อน
ความซับซ้อนของคอ: ทำไมถึงเสี่ยง?
ความซับซ้อนของคอเกิดจากการเป็นโครงสร้างที่รวมระบบสำคัญหลายส่วนเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาท เส้นเลือด และกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะเส้นเลือดคู่หลัง (Vertebral Arteries) ที่ทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนท้ายและก้านสมอง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง การที่มีโครงสร้างซับซ้อนเช่นนี้ทำให้คอเป็นบริเวณที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับคอมักมาจากการที่เส้นเลือดคู่หลังต้องลอดผ่านช่องแคบในกระดูกสันหลังส่วนคอ ทำให้เมื่อมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง เช่น การสะบัด บิด หรือดึง อาจส่งผลให้เส้นเลือดได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่มีความผิดปกติของหลอดเลือดแต่กำเนิด ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
เมื่อเกิดการบิดหรือสะบัดคออย่างรุนแรง เส้นเลือดเหล่านี้อาจได้รับความเสียหาย เช่น
1. ผนังเส้นเลือดฉีกขาด ทำให้เลือดซึมเข้าไปในผนังเส้นเลือด ซึ่งอาจนำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือดสมอง
2. การอุดตันของเลือด ทำให้สมองขาดเลือด อาจส่งผลให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือแม้กระทั่งภาวะสมองตาย
3. เส้นประสาทถูกกดทับ อาจเกิดจากการเคลื่อนตัวของกระดูกสันหลังบริเวณคอ ส่งผลต่อการรับความรู้สึกและการเคลื่อนไหวของแขนขา
ในบางกรณี การสะบัดหรือบิดคอเพียงครั้งเดียวก็อาจสร้างผลกระทบที่รุนแรงได้ แต่สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือผู้สูงอายุ ความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
ข้อมูลจากการวิจัยและรายงานทางการแพทย์
การศึกษาและรายงานทางการแพทย์หลายฉบับได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงของการบิดและสะบัดคอ โดยงานวิจัยในวารสาร Stroke ฉบับเดือนตุลาคม 2014 พบกรณีศึกษาที่น่าวิตกในกลุ่มผู้ป่วยอายุ 21-60 ปี ที่มีอาการอัมพฤกษ์หรืออัมพาตภายใน 24 ชั่วโมงหลังการนวดบิดคอ โดยความเสียหายไม่ได้เกิดจากความรุนแรงเพียงครั้งเดียว แต่การบิดคอซ้ำๆ บ่อยๆ ก็สามารถทำให้เกิดการเสียดสีและการอักเสบเรื้อรังระหว่างเส้นเลือดและกระดูกได้
ทางด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา จากวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเส้นเลือดคู่หลัง ซึ่งเป็นเส้นเลือดสำคัญที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนท้าย ก้านสมอง และสมองน้อย เมื่อมีการกระทำรุนแรงต่อบริเวณนี้ อาจทำให้ผนังเส้นเลือดฉีกขาดและเกิดภาวะ Vertebral Artery Dissection ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
ในกรณีที่เกิดการขาดเลือดในสมองน้อย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการทรงตัวและการประสานงานของร่างกาย อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการตั้งแต่วิงเวียนศีรษะ เสียการทรงตัว ไปจนถึงขั้นหมดสติหรือเสียชีวิตในกรณีที่รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อเกิดภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลันในบริเวณสมองท้ายทอยหรือก้านสมอง ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการทำงานที่สำคัญของร่างกาย
ข้อควรระวังสำหรับการนวด
การนวดเป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยความระมัดระวังและความเข้าใจในโครงสร้างร่างกายอย่างถ่องแท้ การเลือกผู้ให้บริการนวดที่มีใบรับรองและผ่านการอบรมอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการนวดบริเวณคอซึ่งเป็นจุดที่มีความอ่อนไหว หมอนวดควรมีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างร่างกายและข้อควรระวังต่างๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
หากมีอาการปวดหรือเมื่อยบริเวณคอ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนวดแบบบิดหรือสะบัดคอ แต่ควรเลือกใช้วิธีบริหารกล้ามเนื้อด้วยตนเองอย่างนุ่มนวล หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงการนวดที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังและคอโดยเด็ดขาด
สำหรับการดูแลตนเองที่ปลอดภัย สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การกดศีรษะเบาๆ กับฝ่ามือในทิศทางต่างๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ การยืดกล้ามเนื้ออย่างช้าๆ โดยการหมุนคอในวงเล็ก และการประคบอุ่นเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทั้งนี้ หากมีอาการผิดปกติใดๆ เช่น ปวดศีรษะรุนแรง แขนขาอ่อนแรง หรือชา ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
---------------------
เรื่องราวของผิง ชญาดา ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงจากการนวดที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ยังเป็นข้อเตือนใจให้กับทุกคนว่าความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ การนวดที่ผิดวิธีหรือขาดความเชี่ยวชาญอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้
ในทุกการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพ เราควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น เพราะสุขภาพเป็นสิ่งที่ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้
ภาพ : ผิง ชญาดา