สาวลูกสองขี่ จยย.ออกจากบ้านตั้งแต่วันอาทิตย์ พบเป็นศพลอยในคลอง ตร.คาด 2 ปม
เมื่อเวลา 07.58 น. วันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ สืบเรือง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีชาวบ้านไปหาเห็ดโคนแถวริมคลองชลประทานสายท่าสาร-วังปลา หมู่ 1 ต.ตระค้ำเอน อ.ท่ามะกา พบรถจักรยานยนต์ 1 คัน ล้มติดพนังดินริมตลิ่งในคลองชลประทาน ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงนอนหงายลอยขึ้นอืดอยู่ในน้ำ สวมชุดชั้นในสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นเน่า คาดว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง
หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.อาริส คูประสิทธิ์ ผกก.สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ทราบและเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ (กู้ชีพขุนรัตนาวุธ) ร่วมชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบหาหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุทั้งในน้ำและบนบกพบว่า ริมตลิ่งภายในคลองชลประทานซึ่งเป็นคลองดินขุดขนาดใหญ่พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีขาว ทะเบียน ขคฉ 281 กาญจนบุรี ล้มคว่ำติดพนังดินอยู่ ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงนอนหงาย สวมเสื้อชั้นในสีดำ และกางเกงในแบบกางเกงขาสั้น แพทย์ลงความเห็นเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชม. ตรวจสอบตามร่างกายเบื้องต้นไม่สามารถชันสูตรพลิกศพได้ เนื่องจากศพแช่น้ำมานานหลายวัน มีสภาพเน่าเปื่อย คาดว่าถูกตัวเงินตัวทองกัดแทะ จึงไม่สามารถตรวจสอบร่องรอยการถูกทำร้ายได้
ตรวจสอบภายในเพิงพักข้างทุ่งนา ซึ่งปลูกเป็นโรงหลังคามุงกระเบื้อง มีร่องรอยคราบเลือดและผ้าห่มสีฟ้าเปื้อนเลือดทิ้งอยู่บนกิ่งไม้ ใกล้กันพบสายไฟสีดำเปื้อนเลือดวางอยู่ในกอหญ้า จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบปากคำชาวบ้านที่เป็นไทยมุงทราบว่าผู้ตายคือ น.ส.ริดา (สงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 28 ปี ชาว ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
จากการสอบปากคำแม่และยายผู้ตายทราบว่า น.ส.ริดามีครอบครัวแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนหน้าที่จะพบศพ ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค. ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งมีชาวบ้านไปหาเห็ดโคนเจอรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำติดพนังดินในคลอง เนื่องจากปริมาณน้ำลดลง จึทำให้ทั้งรถและร่างผู้ตายที่จมอยู่ในน้ำโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานประเด็นการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องชู้สาวและแค้นส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนจะมอบร่างให้มูลนิธินำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์อย่างละเอียด ก่อนติดตามสืบสวนหาเบาะแสจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป