รีเซต

ไทม์ไลน์ หญิง64 ปี เสียชีวิตป่วยโควิด รายแรกภูเก็ต ครอบครัว-เพื่อนบ้านติด5ราย

ไทม์ไลน์ หญิง64 ปี เสียชีวิตป่วยโควิด รายแรกภูเก็ต ครอบครัว-เพื่อนบ้านติด5ราย
มติชน
27 เมษายน 2563 ( 21:56 )
257

ไทม์ไลน์ หญิง64 ปี เสียชีวิตป่วยโควิด รายแรกภูเก็ต ครอบครัว-เพื่อนบ้านติด5ราย

เมื่อวันที่  27 เมษายน นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงการเสียชีวิตของหญิงไทยอายุ 64 ปี อาชีพแม่บ้าน อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง ว่า สำหรับผู้ป่วยดังกล่าวโดยมีโรคประจำตัวคือโลหิตจาง เป็นโรคที่รักษาต่อเนื่องกันมา

และในรายนี้มีประวัติเสี่ยงต่อการติดเชื้อดังนี้ คือในช่วง 14 วันก่อนป่วย พบว่าอาศัยร่วมกับสมาชิกในครอบครัว มีสามีเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 183

ส่วนบุตรสาวเป็นผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 199 และ มีลูกเขยเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 201 ทั้งลูกเขตและลูกสาวมีอาชีพทำงานค้าขายที่ตลาดนัดในตำบลเชิงทะเล และ ในตลาดนัดในพื้นที่ตำบลกมลา นอกจากนั้นยังมีคนที่อาศัยอยู่ในบ้านใกล้เคียงป่วยอีก 2 คน คือเด็กอายุ 13 ปี และหญิงอายุ 59 ปี

ซึ่งในรายที่เสียชีวิต เริ่มต้นป่วยเมื่อวันที่ 2 เมษายน โดยมีอาการมึนศีรษะอ่อนเพลีย ไอ หายใจหอบ และ ในวันที่ 4 เมษายนได้เข้ารับการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่งที่ตำบลเชิงทะเล ซึ่งได้รับทั้งยาฉีดและยารับประทานกลับไปบ้าน

ต่อมาวันที่ 6 เมษายนพบว่าอาการยังไม่ดีขึ้น กระทั่งในวันที่ 8 เมษายนได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลถลาง โดยมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ เจ็บหน้าอก หายใจเหนื่อย หายใจเร็ว แพทย์เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อโควิด

วันที่ 10 เม.ย. แพทย์ได้วินิจฉัยพบว่าเป็นโควิด – 19 จึงทำการรักษา หลังจากนั้น อาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้น ระหว่างที่อยู่โรงบาลพยาบาลถลางพบว่ามีอาการเหนื่อย หายใจเร็วขึ้น ตรวจจับฟิล์มเอ็กซเรย์ปอด พบว่าปอดทั้งสองข้าง มีลักษณะเกรอะ จากการติดเชื้อไวรัส จึงต้องส่งตัวมายังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

ตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 14 เมษายน พบว่าผู้ป่วยยังคงมีอาการทางระบบหายใจ ต่อเนื่อง แพทย์ได้ให้ยาที่เป็นยาฆ่าเชื้อไวรัสทั้ง 3 ขนาน ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และ ในช่วงหลังจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียจึงให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 18 เมษายน พบว่ายังมีอาการเหนื่อยมาก มีปัญหาเรื่องของไต เริ่มมีอาการไตวาย จึงมีการฟอกไตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน เพื่อที่จะลดสารพิษออกจากร่างกาย ตรวจสอบจากฟิล์มก็พบว่าบริเวณปอดยังมีอาการไม่ค่อยดีขึ้นออกซิเจนในเลือดต่ำลง เรื่อย ๆ

ต่อมา ในวันที่ 19 – 26 เมษายน อาการต่าง ๆ ก็ยังทรงตัวออกซิเจนในเลือดต่ำจนเกิดภาวะระบบหายใจล้มเหลว ภูมิต้านทานในร่างกายผิดปกติ มีปัญหาในเรื่องของการตอบสนองต่อยาต่าง ๆ น้อยลง มีอาการช็อก ความดันต่ำ มีลมรั่วจากใต้ผิวหนัง อาการอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งต่อมาในวันที่ 26 เมษายน 2563 ผู้ป่วยได้เสียชีวิตในเวลา 17.43 น. รวมระยะเวลาในการรักษาในโรงพยาบาลรวมทั้งสิ้น 19 วัน ซึ่งทางคณะแพทย์พยาบาลต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้มีผู้ป่วยสัมผัสที่มีความเสี่ยงสูง10 ราย โดยเป็นคนในครอบครัว 3 ราย คือ สามีซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ลูกสาวและลูกเขย ส่วนอีก2 คนเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน มีบ้านใกล้เคียงกัน โดย 1 คนเป็นเด็กหญิงอายุ 13 ปี เป็นรายที่ 182 อีกรายเป็นผู้หญิงอายุ 59 ปีเป็นผู้ป่วยรายที่ 181 รวมแล้วติดเชื้อจากผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว จำนวน 5 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง