FWD จับมือ SCB ต่อสัญญาอีก 2 ปี ขายประกันผ่านแบงก์

#SCB #FWD #ทันหุ้น FWD ผนึก SCB ขยายอายุสัญญาความร่วมมือในธุรกิจประกันชีวิตผ่านธนาคารต่อเนื่องอีก 2 ปี เพื่อตอบรับความต้องการด้านความคุ้มครองและการเติบโตของธุรกิจประกันภัยในยุคดิจิทัลของประเทศไทย
นายปีเตอร์ กริมส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจประจำประเทศไทยและกัมพูชา กลุ่มบริษัท เอฟดับบลิวดี กล่าวว่า เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้ขยายอายุสัญญาความร่วมมือในธุรกิจประกันชีวิตผ่านธนาคารต่อเนื่องอีก 2 ปี เพื่อตอบรับความต้องการด้านความคุ้มครองและการเติบโตของธุรกิจประกันภัยในยุคดิจิทัลของประเทศไทย
การขยายสัญญาความร่วมมือนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จของการเป็นพันธมิตรระหว่าง FWD ประเทศไทย และSCB ที่ผนึกกำลังสร้างการเติบโตร่วมกันในปีที่ผ่านมา
โดย FWD มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ 67% ในปี 2562 มาอยู่ที่มูลค่า 270 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในปี 2565 ส่งผลให้ปัจจุบัน เอฟดับบลิวดี ประเทศไทย ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ผ่านช่องทางธนาคาร[1]
SCB เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (D-SIBs) มีจำนวนสาขา 660 สาขาตาม ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 และได้มีการนำผลิตภัณฑ์และบริการ ของ FWD มารวมไว้บนเครื่องมือดิจิทัลของธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีผู้ใช้บริการสูงถึง 78% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมดของธนาคาร[2] และเมื่อสิ้นปี 2565 FWD ประเทศไทย มีจำนวนผู้ถือกรมธรรม์ที่มาจากการเป็นพันธมิตรร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1.4 ล้านราย
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2562 SCB ประกาศความร่วมมือด้านประกันชีวิตร่วมกับกลุ่มเอฟดับบลิวดี เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันให้ธุรกิจประกันชีวิต ผ่านธนาคารของธนาคารไทยพาณิชย์ครองอันดับหนึ่งในตลาดในปัจจุบัน
ธนาคารมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการขยายความร่วมมือกับกลุ่มเอฟดับบลิวดีต่อไป โดยจะร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตด้วยตัวเลือกที่หลากหลายครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างโอกาสการเติบโตในกลุ่มลูกค้า Affluent
และกลุ่มผู้ใช้งานดิจิทัลซึ่งเป็นเป้าหมายทางธุรกิจใหม่ของธนาคาร ความร่วมมือในครั้งนี้จะยังผลให้ธนาคาร รักษาความเป็นผู้นำทางการตลาดอย่างแข็งแกร่ง และบรรลุจุดมุ่งหมายในการเป็น Digital Bank with Human Touch ที่เป็นอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมส่งมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทางให้กับลูกค้า
นับตั้งแต่กลุ่ม FWD เข้าซื้อกิจการประกันชีวิตของ SCB และเริ่มทำงานร่วมกับธนาคารไ มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 FWD ประเทศไทยได้ขยายการเติบโต ทั้งในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และภายใน 6 เดือนนับจากการจับมือเป็นพันธมิตร ได้ประสบความสำเร็จและก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจประกันชีวิตผ่านธนาคาร โดยพิจารณาจากเบี้ยประกันภัยรับรวม ตามข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย
ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยยังคงมีโอกาสเติบโตและเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ ดังจะเห็นได้จากจำนวนประชากรที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการประกันภัยอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการถือครองกรมธรรม์อยู่ที่ 3.8% อ้างอิงจากข้อมูล ณ สิ้นปี 2564
และยังมีโอกาสในการลดช่องว่างความคุ้มครองประกันภัย (Protection gap) ของประเทศคิดเป็นมูลค่า 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ [3] จากจำนวนประชากร 72 ล้านคน
โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้มวลรวมประชาชาติเฉลี่ยต่อคน (Thailand income per capita) อยู่ที่ 3.9% วัด ณ สิ้นปี 2564 เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 3.0%[4]
และมีอัตราการใช้งานโทรศัพท์มือถือและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประเทศอยู่ที่ 96% และ 68% ตามลำดับ[5]
[1]ข้อมูลจาก สมาคมประกันชีวิตแห่งประเทศไทยในส่วนขอส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมในปี 2565
[2]ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564
[3] ช่องว่างการคุ้มครองประกันภัย (protection gap)วัดจากเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวนรายปี (APE)
[4] หมายถึงอัตราการเติบโตแบบทบต้นของรายได้มวลรวมประชาชาติ (CAGR) จากปี 2558 – 2564
[5]แหล่งข้อมูลจาก NMG Asia Life Insurance Market Model, Swiss Re, United Nations, World Bank, IMF, World Data Lab, GSMA, GWP และได้ถูกจัดพิพม์โดยองค์กรภาครัฐในแต่ละประเทศ รวมถีงองค์กรที่เกี่ยวข้องกับประกันชีวิต
[1] ช่องว่างการคุ้มครองประกันภัย (protection gap)วัดจากเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวนรายปี (APE)
[1] หมายถึงอัตราการเติบโตแบบทบต้นของรายได้มวลรวมประชาชาติ (CAGR) จากปี 2558 – 2564
[1] แหล่งข้อมูลจาก NMG Asia Life Insurance Market Model, Swiss Re, United Nations, World Bank, IMF, World Data Lab, GSMA, GWP และได้ถูกจัดพิพม์โดยองค์กรภาครัฐในแต่ละประเทศ รวมถีงองค์กรที่เกี่ยวข้องกับประกันชีวิต
ยอดนิยมในตอนนี้
