ตลาดหุ้นเอเชีย-ยุโรปผันผวน หลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข่าววันนี้ 27 มกราคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นยุโรปมีความผันผวนในการเปิดซื้อขายเมื่อวันที่ 27 มกราคม หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียอย่างใกล้ชิด
โดยดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นโตเกียว ปิดร่วงลงมากกว่า 3% ต่ำสุดในรอบ 14 เดือน โดยนักลงทุนขายหุ้นออกมาท่ามกลางความกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงลดลง 2.4% ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับลดลง 1.77% และหุ้นกลุ่มบลูชิพของจีนลดลง 0.2% ต่ำสุดนับจากวันที่ 30 กันยายนปี 2020
ส่วนตลาดหุ้นสำคัญของยุโรปปรับลดลงเช่นกันหลังจากเปิดตลาดซื้อขายในช่วงเช้าของวันเดียวกัน โดยดัชนี FTSE 100 ของตลาดหุ้นลอนดอน ย่อตัวลง 1.0% ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนี และดัชนี CAC ของตลาดหุ้นฝรั่งเศส ต่างพากันย่อตัวลงราว 1.5%
ความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกมีขึ้นหลังจากมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา แถลงข่าวหลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(เอฟโอเอ็มซี)ของเฟดเมื่อวันที่ 26 มกราคมว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่่มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางก่อนหน้านี้ นอกจากนี้เฟดยังยืนยันถึงแผนการที่จะยุติการซื้อคืนพันธบัตรในเดือนมีนาคมก่อนที่จะเริ่มลดการถือครองสินทรัพย์ที่สำคัญลง
ในการแถลงข่าวในภายหลังนายพาวเวลยังกล่าวเตือนว่าภาวะเงินเฟ้อยังคงอยู่เกินเป้าหมายในระยะยาวของเฟดและปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทานยังอาจอยู่อีกนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
ในส่วนของราคาน้ำมันในตลาดโลกแม้ปรับลดลงเล็กน้อย แต่ยังอยู่ใกล้ระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่เคยทำไว้ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมปี 2014 ท่ามกลางความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน โดยราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนท์ ลดลง 0.8% อยู่ที่ 89.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในการซื้อขายเมื่อวันที่ 27 มกราคม ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐ ราคาปรับลดลง 0.94% อยู่ที่ 86.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล