AOT รับกองทุนนอกรุม  มั่นขึ้นค่า PSC เม.ย.69

#AOT #ทันหุ้น - บิ๊ก AOT แย้มกองทุนต่างชาติติดต่อขอข้อมูลต่อเนื่อง ล่าสุดกองทุนแห่งชาติฮ่องกงเข้าพบ ชูแผนขยายโอกาสทางธุรกิจผ่านความร่วมมือกับท่าอากาศยานระดับโลก หลังขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผน ทั้งเคลียร์ประเด็นดิวตี้ฟรี ส่วนขึ้นค่า PSC มั่นใจมีผลบังคับใช้เมษายน 2569 ตามแผน ขณะที่ผู้โดยสารปลายปีเร่งตัวสูง

               นางสาวปวีณา  จริยฐิติพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกองทุนต่างชาติติดต่อสอบถามข้อมูลปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพการเติบโตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการติดต่อเข้ามาโดยตรง และการติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทย

เนื่องจาก AOT สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้ตามแผนครบถ้วนทุกประเด็นตั้งแต่การเจรจาแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจําหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในท่าอากาศยาน 5 แห่ง ของบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD),  การปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charges : PSC) ทั้ง 6 ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ AOT อีก 390 บาท เป็นอัตราค่า PSC ที่ 1,120 บาท, แผนการพัฒนาท่าอากาศยานทั้งการสร้างส่วนต่อขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, การก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่, การพัฒนาที่ดินรอบท่าอากาศยานเพิ่มรายได้  

               “การสร้างรายได้ทั้งธุรกิจการบิน (Aero) และธุรกิจที่ไม่ใช่การบิน (Non-Aero) ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงโอกาสทางธุรกิจทั้งการเป็นพันธมิตรกับท่าอากาศยานระดับประเทศทั่วโลก  การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การหาโอกาสเติบโตร่วมกัน (Synergy)  กองทุนจึงหันมาให้ความสนใจ ล่าสุดมีกองทุนแห่งชาติจากฮ่องกงบินตรงมาเข้ามาที่บริษัทเพื่อรับฟังข้อมูลโดยเฉพาะ ผลการดำเนินงานที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์และเป็นไปตามแผนการดำเนินงานทุกอย่าง เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนกลุ่มนี้เห็นว่า AOT เป็นสินทรัพย์ที่คุ้มค่าและน่าถือครองไว้ในระยะยาว”

@ มั่นใจขึ้น PSC กลางปี 2569

               สำหรับกรณีการปรับขึ้นค่า PSC ผู้โดยสารขาออก ล่าสุดอยู่ระหว่างขั้นตอนทางเอกสารของคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เพื่อเตรียมเสนอให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง คมนาคม เพื่อให้มีผลบังคับใช้หลังจากวันลงนามราว 4 เดือน เบื้องต้นจึงยังคงประมาณการ การจัดเก็บค่า PSC ผู้โดยสารขาออกที่ 1,120 บาท ในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2568/2569 หรือราวเดือนเมษายน 2569 เป็นต้นไป

               “ไม่มีความกังวลกรณีปรับขึ้นค่า PSC เพราะยังคงอยู่ในกรอบเวลาที่ประมาณการไว้ตั้งแต่เริ่มนำเสนอ ต่อกรมการบินพลเรือน ตามขั้นตอนจนสามารถนำเข้าบรรจุในวาระการประชุมของคณะกรรมการกบร.”

@ย้ำแผนบริหารเชิงรุก

               นางสาวปวีณา กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2569 (ต.ค.-ธ.ค.68) ว่ามีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับปริมาณเที่ยวบินที่เข้ามาอย่างหนาแน่น

               ทั้งนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำทั้ง 6 ท่าอากาศยานบริหารจัดการ “เวลาการบิน” ให้เป็นไปตามตารางการบิน (Slot) ที่กำหนด ควบคู่การดำเนินกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก ด้วยการมอบสิทธิพิเศษ (Incentive) ให้กับทั้งสายการบินเจ้าของสล็อต  (Historical Slots) ที่แจ้งยกเลิกสล็อตเร็ว  และสายการบินใหม่ๆ หรือ สายการบินที่พร้อมจะนำเครื่องเข้ามาลงในกรณีที่เจ้าของสล็อตแจ้งยกเลิกสล็อตเพื่อรักษารายได้โดยภาพรวมให้สอดคล้องกับตารางเวลาที่เติบโตขึ้น ควบคู่การแก้ปัญหาการใช้สิทธิจองตารางการบินไว้ก่อนแล้วค่อยแจ้งยกเลิก อย่างเป็นรูปธรรมในเวทีการประชุม – การเจรจาระดับสากล

                การดำเนินการดังกล่าว จะเปิดโอกาสให้ AOT สามารถให้บริการสายการบินใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับอุตสาหกรรมการบินโลกที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง  รวมถึงสายการบินที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทยอยรับเครื่องบินใหม่เข้ามาประจำฝูงบิน เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ (New Route)  ในอนาคต

@ แนะ “ซื้อเก็งกำไร”  

               บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ AOT มีปัจจัยหนุนจาก 1.คงประมาณการการปรับขึ้นค่า PSC ผู้โดยสารระหว่างประเทศเป็น 1,120 บาทต่อคน จะมีผลบังคับใช้ประมาณเมษายน 2569 เป็นต้นไป  2.ปริมาณผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเร่งตัวได้อย่างแข็งแกร่ง และ 3.ผลการเจรจาผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อหัว (MG) ของสัมปทาน Duty Free ดีกว่าประมาณการ

จึงพิจารณาปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568/2569 ขึ้นมาที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY และเร่งตัวต่อเนื่อง 27% YoY แตะที่  2.8 หมื่นล้านบาท ในปี 2569/2570 จากการปรับสมมติฐาน 1 ปรับ MG ของสัมปทาน Duty Free ขึ้นปีละ 7-8% และ 2. ปรับเพิ่มค่าบริการ PSC เฉพาะผู้โดยสารระหว่างประเทศเป็น 1,120 บาทต่อคน ส่งผลให้รายได้ค่าบริการผู้โดยสารเพิ่มขึ้นปีละ 10-14%  แนะ “ซื้อเก็งกำไร” เป้า 50 บาท