รีเซต

เผยเหตุเพื่อนบ้านยิง ตา 74 ดับ-ภรรยาสาหัส ปมสุดทนดมกลิ่นมูลแพะมานาน

เผยเหตุเพื่อนบ้านยิง ตา 74 ดับ-ภรรยาสาหัส ปมสุดทนดมกลิ่นมูลแพะมานาน
มติชน
18 ตุลาคม 2565 ( 11:32 )
35

ความคืบหน้ากรณี นายปรีชา อายุ 62 ปี ชาวอ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิง ชายอายุ 74 ปี เสียชีวิต ส่วนภรรยา อายุ 60 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้องได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) หลานสาว อายุ 1 ปี 8 เดือน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ขณะนี้ ภรรยาของผู้เสียชีวิตและหลานสาว รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 17 ต.ค.65 ที่บริเวณหลังบ้านของผู้เสียชีวิต ในอ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

ล่าสุดวันนี้ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภรรยาของผู้เสียชีวิต ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วน ด.ญ.เอ (หลานสาว) อาการปลอดภัยแล้ว

ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุในเบื้องต้นทราบว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิต มีอาชีพเลี้ยงแพะมานาน โดยทำคอกแพะเอาไว้หลังบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านของ นายปรีชา ผู้ต้องหา ที่ผ่านมา นายปรีชา ได้ขอให้ครอบครัวของ นายบุญมี ย้ายแพะออกไปเลี้ยงที่อื่น เนื่องจากมูลแพะส่งกลิ่นเหม็นมารบกวนถึงบ้าน และครอบครัวของผู้เสียชีวิตมักนำแพะมาผูกเอาไว้กับต้นไม้ที่อยู่ริมรั้วบ้านของ นายปรีชา อยู่เป็นประจำ สร้างความไม่พอใจให้กับ นายปรีชา เป็นอย่างมาก

จนกระทั่งวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง จนเหตุการณ์เริ่มบานปลาย ลูกเขยของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ จึงตัดสินใจไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมช่องด่านเพื่อให้มาระงับเหตุ

ระหว่างนั้น ผู้เสียชีวิตได้คว้ามีดและทำท่าว่าจะเข้ามาทำร้ายนายปรีชาด้วยความโมโห นายปรีชา จึงเดินไปเอาปืนที่อยู่ในบ้าน กลับมายิงใส่ผู้เสียชีวิต กระทั่งล้มฟุบอยู่กับพื้น จากนั้นภรรยาของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ได้เดินอุ้มหลานเข้ามาหาและด่าทอ จึงถูก นายปรีชา ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงจนบาดเจ็บ

จากนั้น นายปรีชายังได้หันกระบอกปืนเพื่อจะยิงลูกเขยของผู้เสียชีวิต แต่ได้วิ่งหลบหนีไปเสียก่อน หลังก่อเหตุ นายปรีชา ผู้ต้องหา ได้เดินกลับไปรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ที่บ้านของตนเอง โดยไม่คิดจะหลบหนีไปไหน

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ่อพลอย เดินทางมาถึงและได้คุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เรียกญาติของทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อหามูลเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุที่แท้จริงเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีในการส่งให้พนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง