ศธ.คาด 15 พ.ย. เด็กได้ไฟเซอร์ 2 เข็ม พร้อมเปิดเรียน 'On-Site' ทั่วประเทศ
ปลัดศธ. คาดหากเป็นไปตามไทม์ไลน์ 15 พ.ย. เด็ก 12-17 ปี ฉีดวัคซีน 'ไฟเซอร์' ครบ 2 เข็ม โรงเรียนพร้อมเปิดเรียน 'On-Site' 100% ทั่วประเท
เมื่อวันที่ 16 ก.ย.64 นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าในการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กอายุ 12-18 ปี ว่า จากที่ศธ. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดให้เด็กอายุ 12-17 ปี 11 เดือน 29 วัน ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียน นักศึกษา ที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า
โดยตามที่ไทม์ไลน์ในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนของ
ศธ. วางแผนไว้ มีดังนี้ วันที่ 10-17 ก.ย. สถานศึกษา จัดเตรียมรายชื่อและจำนวนนักเรียน ระหว่างนั้น ศธ.และสธ.จัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซักซ้อมความเข้าใจการฉีดวัคซีน และการทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง
วันที่ 17-22 ก.ย.สถานศึกษาจัดประชุมทำความเข้าใจ ให้ข้อมูลกับผู้ปกครองในการฉีดวัคซีนให้เด็ก วันที่ 22-24 ก.ย. สถานศึกษาเชิญผู้ปกครองลงนามแจ้งความประสงค์ (ยินยอม) ให้นักเรียนเข้ารับวัคซีน ซึ่งในวันนั้นสถานศึกษาจะทราบจำนวนเด็กที่ต้องการฉีดแน่นอนแล้ว
นายสุภัทร กล่าวต่อว่า ในวันที่ 25 ก.ย. สถานศึกษา นำส่งบัญชีรายชื่อนักเรียนที่ประสงค์รับวัคซีนไฟเซอร์แก่ ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หรือ อาชีวศึกษาจังหวัด (อศจ.) แล้วนำส่ง ศึกษาธิการจัวหวัด (ศธจ.)
วันที่ 26 ก.ย. ศธจ., ผู้อำนวยการ สพท., อศจ., ผู้แทนหน่วยงานการศึกษาในจังหวัดประชุมสรุปจำนวน และรายชื่อนักเรียนเพื่อนำส่งสาธารสุขจังหวัด วันที่ 28-30 ก.ย. สาธารสุขจังหวัดวางแผนการรับวัคซีน และกำหนดการฉีดวัคซีนรายโรงเรียน วันที่ 1 ต.ค. สถานศึกษารับทราบกำหนดการ และจัดเตรียมสถานที่ และจะนัดนักเรียนให้มาฉัดวัคซีนที่สถานศึกษา และวันที่ 4 ต.ค. เริ่มการฉีดวัคซีนแก่นักเรียน
"หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ คือถ้าฉีดเข็มที่ 1 ในสัปดาห์แรกของเดือนต.ค. จะมีเด็กส่วนหนึ่งจะได้รับเข็มที่ 2 ช่วงสิ้นเดือนต.ค. และจะทยอยได้รับการฉีดเข็มที่ 2 ให้ครบหมดภายในวันที่ 15 พ.ย. ซึ่งจะทำให้โรงเรียนบางส่วนในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม สามารถเปิดเรียนแบบ On-Site ได้ภายในวันที่ 1 พ.ย.
และถ้าการฉีดวัคซีนให้เด็กเป็นไปตามแผน คาดว่าภายในวันที่ 15 พ.ย. สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สามารถเปิดเรียนแบบ On-Site ได้ 100% ทั้งประเทศ" นายสุภัทร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้เป็นการเรียนออนไลน์ เด็กที่เรียนในพื้นที่สีแดงเข้มบางคนกลับต่างจังหวัดตามผู้ปกครอง จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้เด็กกลุ่มนี้อย่างไร นายสุภัทร กล่าวว่า สถานศึกษาจะต้องแจกแจงให้ได้ว่า ในสถานศึกษาของตนมีเด็กที่ต้องการฉีดวัคซีนแต่อยู่ต่างจังหวัดกี่คน แล้วส่งรายชื่อให้ศธจ. และศธจ.จะรวบรวมรายชื่อไปยังกรมควบคุมโรคเพื่อที่จะให้กรมควบคุมโรคจัดสรรวัคซีนในจังหวัดนั้นๆ ต่อไป