ฝนถล่ม “วอชิงตัน” จากแม่น้ำในบรรยากาศ เสี่ยงอพยพครั้งใหญ่

ฝั่งตะวันตกของรัฐวอชิงตันกำลังเผชิญสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ระดับน้ำในแม่น้ำพุ่งสูงเกือบทำลายสถิติ ทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องเตรียมตัวอพยพ หลังผู้ว่าการรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน เตือนว่าวิกฤตครั้งนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ขณะที่นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังกระตุ้นฝนสุดขั้วทั่วโลก
ฝนตกหนักไม่หยุดในรัฐวอชิงตันทำให้พื้นที่จำนวนมากเสี่ยงเผชิญน้ำท่วมรุนแรง โดยผู้ว่าการรัฐ บ็อบ เฟอร์กูสัน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมเตือนว่า “ชีวิตผู้คนจะตกอยู่ในความเสี่ยงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” ขณะที่ระดับแม่น้ำหลายสายสูงใกล้จุดประวัติการณ์ สาเหตุของฝนหนักครั้งนี้มาจากปรากฏการณ์ “แม่น้ำในบรรยากาศ” (atmospheric river) ที่พัดความชื้นมหาศาลจากมหาสมุทรเข้าสู่ฝั่งโอเรกอนและวอชิงตัน
นักอุตุนิยมวิทยาระบุว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาอาจสูงถึง 20–30 นิ้วในช่วงสามสัปดาห์ ซึ่งรุนแรงมาก และเหตุการณ์ลักษณะนี้กำลังเกิดบ่อยขึ้นทั่วโลก จากผลของภาวะโลกร้อนที่ทำให้ฝนตกหนักและบ่อยกว่าเดิม ตั้งแต่เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงศรีลังกา อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน หลักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า เมื่ออากาศร้อนขึ้น ความสามารถในการกักเก็บไอน้ำเพิ่มขึ้น 7% ต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เมื่อฝนตก จะมีน้ำจำนวนมากเทลงมาในคราวเดียว กระตุ้นน้ำท่วมฉับพลัน อีกทั้งอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ฝนตกแทนหิมะมากขึ้น ทำให้พื้นที่ภูเขาสูงเสี่ยงต่อดินถล่มและน้ำหลาก
งานวิจัยหลายชิ้น รวมถึงการวิเคราะห์ของ World Weather Attribution และนักวิทยาศาสตร์จาก Imperial College London ระบุว่าเหตุฝนสุดขั้วและน้ำท่วม เช่น เหตุการณ์ในรัฐเทกซัสที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน มีความเชื่อมโยงชัดเจนกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยปริมาณความชื้นในชั้นบรรยากาศที่มากขึ้นทำให้พายุฝนรุนแรงขึ้น และจะเกิดบ่อยขึ้นในอนาคต
แม้การคาดการณ์รูปแบบฝนจะซับซ้อน แต่แบบจำลองสภาพภูมิอากาศชี้ตรงกันว่า หากโลกร้อนเกิน 1.5°C จะทำให้เหตุการณ์ฝนหนักเกิดบ่อยขึ้นเป็น 1.5 ครั้งต่อทศวรรษ และมีปริมาณฝนมากขึ้นกว่า 10% หากโลกร้อน 2°C จะเกิดราว 1.7 ครั้งต่อทศวรรษ และหากโลกร้อนถึง 4°C ฝนหนักอาจเกิดบ่อยเกือบสามเท่าพร้อมปริมาณน้ำมากขึ้นถึง 30%
ฝั่งตะวันตกของวอชิงตันกำลังเผชิญวิกฤตน้ำท่วมจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับภาวะโลกร้อน เมื่ออากาศร้อนขึ้น ฝนจะตกหนักขึ้นและบ่อยขึ้น ทำให้ความเสี่ยงน้ำท่วมและภัยพิบัติอื่น ๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า หากไม่หยุดยั้งการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก เหตุการณ์ฝนสุดขั้วแบบนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ของโลกใบนี้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
