นายกฯ ออสเตรเลียยัน 'กักตัวในโรงแรม' ช่วยสกัดโควิด-19 ได้ 99%
แคนเบอร์รา, 27 พ.ค. (ซินหัว) -- สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศปกป้องระบบกักตัวในโรงแรม หลังตรวจพบการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อีกครั้งในนครเมลเบิร์น
เมื่อวันพุธ (26 พ.ค.) มอร์ริสันกล่าวกับรัฐสภาว่ามาตรการกักตัวในโรงแรมสำหรับผู้โดยสารขาเข้าออสเตรเลีย มีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 99.99 ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้จำนวนผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับการระบาดใหญ่ครั้งใหม่ทางตอนเหนือของเมลเบิร์นจะเพิ่มขึ้นเป็น 15 รายแล้ว
ทั้งนี้ พรรคแรงงาน ฝ่ายค้านของประเทศ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ความล้มเหลวของรัฐบาลในการจัดตั้งสถานที่กักตัวระดับชาติ "ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันโรคโควิด-19"
"เครือจักรภพและรัฐต่างๆ ของประเทศทำงานร่วมกันเพื่อวางระบบกักตัวและจัดการคำสั่งด้านสาธารณสุข ซึ่งมีอัตราประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 99.99" มอร์ริสันกล่าวต่อรัฐสภา
ออสเตรเลียได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนราว 3.8 ล้านโดสทั่วประเทศแล้ว ขณะโรคโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดในชุมชนของเมลเบิร์นอีกครั้ง
"อัตราการฉีดวัคซีนในปัจจุบันอยู่ที่ราว 516,000 โดสต่อสัปดาห์ เราคาดว่าประชากรผู้ใหญ่ของออสเตรเลียจะได้รับวัคซีนครบ 40 ล้านโดสในช่วงปลายเดือนกันยายน 2022" สถานีโทรทัศน์เอบีซี (ABC) ของออสเตรเลียรายงาน
ทั้งนี้ ออสเตรเลียยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 30,048 ราย เมื่อนับถึงบ่ายวันพุธ (26 พ.ค.) ขณะจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อในท้องถิ่นและจากต่างประเทศช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 9 ราย และ 4 ราย ตามลำดับ โดยมีหนึ่งรายยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ