"แหวนอัจฉริยะ Stream"​ พัฒนาโดยอดีตทีม Meta สั่งงานด้วยเสียง และสนทนากับผู้ช่วย AI

ปัจจุบันอุปกรณ์สวมใส่ที่สั่งงานด้วยเสียงกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการเทคโนโลยี ล่าสุดอดีตพนักงานบริษัท เมตา (Meta) สองคนได้ร่วมกันก่อตั้งสตาร์ตอัปชื่อ แซนบาร์ (Sandbar) และเปิดตัวสตรีม (Stream) แหวนอัจฉริยะ ที่สามารถจดโน้ต บันทึกเสียง สนทนากับผู้ช่วย AI (AI Assistant) และควบคุมเพลงได้ในวงเดียว

บริษัทนิยามแหวนนี้ว่าเป็น “เมาส์สำหรับเสียง (Mouse for Voice)” เพราะออกแบบมาให้เป็นอินเทอร์เฟซรูปแบบใหม่เชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับ AI โดยไม่ต้องพึ่งจอหรือคีย์บอร์ด

“Stream” แหวนอัจฉริยะ

Stream มีดีไซน์เรียบหรูคล้ายแหวนแฟชั่นทั่วไป แต่แฝงด้วยเทคโนโลยีระดับสูง ตัวเรือนผลิตจากวัสดุโลหะขัดเงา มีให้เลือกทั้ง สีเงิน (Silver) และ สีทอง (Gold) ด้านบนเป็นพื้นผิวเรียบที่ทำหน้าที่เป็น แผ่นสัมผัส (Touchpad) สำหรับกด บีบ หรือปัด เพื่อสั่งงานอุปกรณ์ ฟังก์ชันหลักผ่านไมโครโฟนขนาดจิ๋วที่ฝังในตัวแหวน ซึ่งจะเปิดใช้งานเฉพาะเมื่อผู้ใช้แตะและกดค้างบนแผ่นสัมผัส เพื่อบันทึกเสียงหรือพูดคุยกับผู้ช่วย AI ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความเป็นส่วนตัว

เมื่อใช้งาน แหวนจะเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ตโฟนผ่าน Bluetooth และทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน “Stream” บนระบบปฏิบัติการ iOS โดยผู้ใช้สามารถพูดเพื่อจดโน้ต สนทนากับ AI หรือควบคุมเพลงได้ทันที เช่น กดแตะหนึ่งครั้งเพื่อเล่น/หยุดเพลง หรือปัดเพื่อข้ามเพลง ระบบยังมี การสั่นตอบรับ (Haptic Feedback) เพื่อยืนยันว่าคำสั่งได้รับเรียบร้อยโดยไม่ต้องดูหน้าจอ

ความโดดเด่น คือ ไมค์ที่ไวพอจะรับเสียงกระซิบ ทำให้ผู้ใช้สามารถพูดบันทึกความคิดได้อย่างเงียบ ๆ แม้อยู่ในที่สาธารณะ ขณะเดียวกันก็สามารถสวมแหวนไว้ที่นิ้วชี้เพื่อกดสั่งงานได้สะดวกเหมือนคลิกเมาส์ การออกแบบทั้งหมดสะท้อนแนวคิด “เมาส์สำหรับเสียง (Mouse for Voice)” ที่ให้ผู้ใช้ควบคุม AI ได้โดยใช้เพียงการสัมผัสและคำพูด ทั้งหมดอยู่บนอุปกรณ์ขนาดเท่าแหวนวงเดียวเท่านั้น

จุดเริ่มต้นของแนวคิด “Stream”

มินา ฟาร์มี (Mina Fahmi) ซีอีโอของ สตรีม (Stream) และ ครีรัค ฮอง (Kirak Hong) ซีทีโอ เคยร่วมงานกันในทีม CTRL-Labs สตาร์ตอัปด้าน neurotechnology (เทคโนโลยีประสาท) จากนครนิวยอร์ก ซึ่งต่อมาถูก เมต้า (Meta) ซื้อกิจการเพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์เฟซประสาท (Neural Interface)

โดยมินา ฟาร์มี (Mina Fahmi) เล่าว่าแนวคิดของ สตรีม (Stream) เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัว เนื่องจากมีไอเดียจากเหตุการณ์ที่ระหว่างเขาเดินทาง และไม่อยากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาขัดจังหวะ หรือพูดใส่หูฟังให้คนอื่นได้ยิน เลยเป็นที่มาของการหาวิธีจับความคิดได้ในขณะนั้น

ฟีเจอร์เด่น “บันทึกความคิดได้ทุกที่ ทุกเวลา”

สตรีม (Stream) ถูกออกแบบให้สวมที่นิ้วชี้ของมือข้างถนัด มี ไมโครโฟนและแผ่นสัมผัส (Touchpad) ที่จะเปิดใช้งานเฉพาะเมื่อกดค้างเพื่อบันทึกเสียง ระบบสามารถจับเสียงกระซิบและแปลงเป็นข้อความในแอปบน iOS ได้ทันที

ภายในแอปพลิเคชันจะมี AI Chatbot ที่สนทนาและช่วยจัดหมวดหมู่บันทึก ผู้ใช้สามารถซูมดูภาพรวมบทสนทนาตามวันหรือสัปดาห์ได้ พร้อมระบบเสียงผู้ช่วยที่ปรับน้ำเสียงให้คล้ายเจ้าของ เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ความสามารถพิเศษของ "Stream"

ในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ผู้ใช้สามารถ สวมหูฟังเพื่อคุยกับผู้ช่วยแบบส่วนตัว หรือหากไม่ใส่ แหวนจะให้ การสั่นตอบรับ (Haptic Feedback) เพื่อยืนยันการบันทึกสำเร็จ นอกจากนี้พื้นผิวเรียบของแหวนยังทำหน้าที่เป็น ปุ่มควบคุมเพลง (Media Controller) สำหรับเล่น หยุด หรือเลื่อนเพลง เหมาะกับผู้ที่ต้องเดินทางหรือทำงานที่ต้องใช้มืออยู่ตลอดเวลา

สตรีม (Stream) ยืนยันว่าผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ ทุกอย่างถูกเข้ารหัสทั้งในเครื่องและระหว่างส่งต่อ (End-to-End Encryption)

บริษัทไม่ปิดระบบเฉพาะของตน (No Walled Garden) และมีแผนรองรับการส่งออกข้อมูลไปยังแอปฯ โนชั่น (Notion) แอปพลิเคชั่นสำหรับการจัดการออนไลน์ และบริการอื่น ๆ ในอนาคต

ตลาดอุปกรณ์ AI ยังแข่งขันสูง

แม้ตลาดอุปกรณ์ AI ที่ใช้เสียงจะยังมีการแข่งขันรุนแรงแต่แซนบาร์ (Sandbar) ตั้งเป้าชัดว่า สตรีม (Stream) จะไม่ใช่ผู้ช่วยหรือเพื่อน AI หากแต่เป็น “อินเทอร์เฟซสำหรับความคิด” ที่ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายทอดและจัดการความคิดของตนได้อย่างอิสระ

ปัจจุบันแซนบาร์ (Sandbar) ระดมทุนได้กว่า 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 475 ล้านบาท 

เปิดจองล่วงหน้าสำหรับรุ่น สีเงิน (Silver) ที่ราคา 249 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8,000 บาทและ สีทอง (Gold) ที่ราคา 299 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9,700 บาท พร้อมแพ็กเกจ Pro Subscription ฟรี 3 เดือน จากนั้นเดือนละ 10 ดอลลาร์ หรือ 320 บาท สำหรับใช้งานบันทึกเสียงและสนทนาไม่จำกัด