'มหกรรมชอปปิง' สมรภูมิใหม่ของ 'ยักษ์ใหญ่จีน' บนวิถีสังคมคาร์บอนต่ำ
ไท่หยวน, 14 พ.ย. (ซินหัว) -- หลังกดสั่งซื้อของไปเพียงไม่กี่วัน หญิงจีนแซ่หวังในเมืองไท่หยวน มณฑลซานซีของจีน ก็ได้รับการแจ้งเตือนให้ไปรับสินค้าจากสถานีจัดส่งพัสดุย่านใกล้ที่พัก หลังรับของแล้วเธอมักวางกล่องพัสดุไว้ที่เคาน์เตอร์รีไซเคิลที่สถานีเพื่อรับ "ไข่เสมือนจริง" 1 ฟอง ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และเมื่อเธอเก็บไข่ครบ 4 ฟอง แอปฯ ก็จะส่งไข่จริงๆ ไปที่บ้านของเธอโดยไม่คิดเงิน ซึ่งหวังมองว่ากิจกรรมกล่องลังแลกไข่นี้เป็นไอเดียดีๆ ที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
เทศกาลวันคนโสดปีนี้ สถานีจัดส่งพัสดุในเครือไช่เหนี่ยว เน็ตเวิร์ก (Cainiao Network) ของอาลีบาบาจำนวน 60,000 แห่ง ได้จัดส่งไข่ให้ผู้บริโภคที่ร่วมรีไซเคิลกล่องพัสดุเป็นจำนวน 7.5 ล้านฟอง
มหกรรมชอปปิงวันคนโสด ที่ริเริ่มโดยอาลีบาบาเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2009 กำลังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังกลายเป็น "สมรภูมิ" แห่งใหม่ ที่บริษัทต่างๆ พยายามสร้างความแตกต่างให้ตนเอง ในช่วงเวลาที่จีนกำลังมุ่งลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ในปีนี้ ทีมอลล์ (Tmall) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา ออก "บัตรสมนาคุณสีเขียว" มูลค่า 100 ล้านหยวน (ราว 513 ล้านบาท) เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นประหยัดพลังงาน และและผลิตภัณฑ์ที่มีใบรับรองด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อขานรับเป้าหมายลดก๊าซคาร์บอนของประเทศ
ด้านเจดีดอตคอม (JD.com) ยักษ์ใหญ่คอมเมิร์ซจีนอีกรายก็ได้ตบเท้าเข้าร่วมโครงการ "คาร์บอนต่ำ" ด้วยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ เปลี่ยนมาใช้รถขนส่งสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานใหม่ และใช้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตด้วยด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ในคลังสินค้าของบริษัท
ในบรรดาสินค้าทั้งหมดที่วางขายในเจดีดอตคอมช่วงเทศกาลชอปปิงวันคนโสด เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมถึงกว่า 150 ล้านรายการ โดยบริษัทกล่าวว่าเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และโทรทัศน์รุ่นประหยัดพลังงานที่ลูกค้าซื้อจากเจดีดอตคอมเมื่อปีที่แล้ว จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้เกือบ 2 ล้านตันต่อปี
หลังจีนประกาศความมุ่งมั่นที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้แตะจุดสูงสุดก่อนปี 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2060 เป้าหมายอันทะเยอทะยานนี้ต่างได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากทุกภาคส่วนของสังคม แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (2021-2025) ด้านการพัฒนาอีคอมเมิร์ซระบุว่า ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซควรดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อปรับตัวให้สอดรับกับข้อกำหนดว่าด้วยการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ กำหนดวิสัยทัศน์ของบริษัทให้สอดคล้องกับการพัฒนาสีเขียว ปฏิบัติตามพันธกิจในการปกป้องสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กระแสลมแห่งการอนุรักษ์พลังงานและลดการปล่อยมลพิษได้พัดโบกขึ้นในห่วงโซ่โลจิสติกส์ของภาคอีคอมเมิร์ซจีนเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น แซดทีโอ เอ็กซ์เพรส (ZTO Express) บริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ของจีนที่หันมาใช้งานถุงขนส่งสินค้าที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่า 11 ล้านใบ แทนที่ถุงผ้าแบบใช้แล้วทิ้งประมาณ 1.16 พันล้านใบ ซึ่งเทียบได้กับการลดขยะราว 104,000 ตัน
จ้าวเสี่ยวหลง ผู้จัดการใหญ่ของศูนย์การจัดการของแซดทีโอสาขาซานซีกล่าวว่า "ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกิโลกรัมที่เกิดจากพัสดุหนึ่งชิ้นของแซดทีโอนั้น ลงจากตัวเลข 0.091 ในปี 2018 มาอยู่ที่ 0.061 ในปี 2020 แสดงแนวโน้มที่ลดลงติดต่อกันนาน 3 ปี"
ด้านการไปรษณีย์จีน (SPB) ก็ไม่น้อยหน้า มุ่งรักษาอัตราการใช้ใบตราส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-AWB) ที่ร้อยละ 95 ลดการห่อหรือบรรจุซ้ำกับพัสดุอีคอมเมิร์ซมากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยอัตราการใช้ถุงขนส่งสินค้าชนิดรีไซเคิลในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 70 ขณะที่ร้านจัดส่งพัสดุด่วนในเครือจำนวน 10,000 แห่ง ต่างกำลังติดตั้งอุปกรณ์สำหรับรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของทั้งอุตสาหกรรม
"มหกรรมชอปปิงวันคนโสดทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่เทศกาลจับจ่ายใช้เงินเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันแนวคิดการบริโภคอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตคาร์บอนต่ำ ขณะดียวกันก็สนับสนุนให้บรรดาธุรกิจประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษมากขึ้น" ศาสตราจารย์เกิงเย่เฉียงจากคณะเศรษฐศาสตร์และการจัดการมหาวิทยาลัยชานซี กล่าว