GM และ Ford ประกาศเตรียมใช้ระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla Supercharger
วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าบริษัท เจเนอรัล โมเตอร์ (General Motors) หรือจีเอ็ม (GM) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาได้ตกลงนำมาตรฐานการชาร์จในอเมริกาเหนือ (NACS) ของบริษัท เทสลา (Tesla) มาใช้งานทำให้ผู้ใช้งานรถยนต์จีเอ็ม (GM) สามารถเข้าถึงเครือข่ายสถานีเทสลา ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (Tesla Supercharger)
ในเดือนที่ผ่านมาจิม ฟาร์ลีย์ (Jim Farley) ผู้บริหารบริษัท ฟอร์ด (Ford) ได้ประกาศใช้มาตรฐานการชาร์จในอเมริกาเหนือ (NACS) เพื่อให้ผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัท ฟอร์ด (Ford) สามารถใช้บริการสถานีเทสลา ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (Tesla Supercharger) จำนวนกว่า 12,000 เครื่องในอเมริกาเหนือในช่วงต้นปี 2024 เป็นต้นไป
การตัดสินใจของบริษัท จีเอ็ม (GM) บริษัท ฟอร์ด (Ford) และบริษัท เทสลา (Tesla) เป็นความร่วมมือของบริษัทรถยนต์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยทั้ง 3 บริษัท เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาและส่งผลให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 60% ของสหรัฐอเมริกาสามารถเข้าถึงมาตรฐานการชาร์จในอเมริกาเหนือ (NACS) ของบริษัท เทสลา (Tesla) และอาจทำให้สถานีเทสลา ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (Tesla Supercharger) ของบริษัทกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา
สำหรับมาตรฐานการชาร์จของสหรัฐอเมริกา CSS ยังคงถูกใช้งานต่อไป โดยบริษัท เทสลา (Tesla) ได้รับสิทธิพิเศษเงินอุดหนุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐจากรัฐบาลกลาง ตราบใดที่บริษัทยังคงใช้มาตรฐานการชาร์จของสหรัฐอเมริกา CSS
คาดว่าบริษัท จีเอ็ม (GM) เตรียมเปิดให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัทสามารถเข้าถึงมาตรฐานการชาร์จในอเมริกาเหนือ (NACS) โดยผู้ใช้รถยนต์จะต้องใช้ตัวแปลงหัวชาร์จตามมาตรฐาน CSS เป็น NACS ก่อนที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะชาร์จกับเครือข่ายสถานีเทสลา ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (Tesla Supercharger)
การเปิดให้ค่ายรถยน์พลังงานไฟฟ้าจากคู่แข่งสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จของบริษัท เทสลา (Tesla) นับเป็นแนวคิดที่น่าสนใจของอีลอน มัสก์ เพื่อสร้างการแข่งขันที่เท่าเทียมและส่งเสริมการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จของบริษัท เทสลา (Tesla) แต่อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ให้บริการสถานีชาร์จรายอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาที่ต้องแข่งขันกับบริษัท เทสลา (Tesla) ที่เปิดให้บริษัท จีเอ็ม (GM) และบริษัท ฟอร์ด (Ford) ใช้งานสถานีชาร์จของบริษัทตัวเองได้
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Reuters