สิงคโปร์เล็งสร้างเกาะเทียม รับมือน้ำทะเลสูง-ป้องกันน้ำท่วม เป็นพื้นที่แห่งใหม่ในอนาคต

สิงคโปร์กำลังวางแผนสร้างเกาะเทียมขนาดใหญ่ยาว 8 ไมล์ เพื่อป้องกันผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และเพิ่มพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัย กิจกรรมสันทนาการ และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โครงการนี้มีชื่อชั่วคราวว่า “เกาะยาว” (Long Island) และตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
สิงคโปร์ประเมินว่า ระดับน้ำทะเลอาจสูงขึ้น 1.15 เมตร ภายในสิ้นศตวรรษนี้ และอาจสูงถึง 2 เมตรภายใน พ.ศ. 2693 หากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังสูง การสร้างเกาะเทียมจะช่วยป้องกันผลกระทบจากระดับน้ำทะเลสูงและพายุลูกใหญ่ พร้อมทั้งสร้างสวนสาธารณะริมน้ำยาวกว่า 12 ไมล์ และพื้นที่สำหรับอาคารที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ โดยที่ดินในสิงคโปร์เป็นสินทรัพย์มีค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การสร้างพื้นที่ใหม่จึงอาจจะช่วยบรรเทาปัญหาที่อยู่อาศัย โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า “เกาะยาว” สามารถรองรับบ้านได้ระหว่าง 30,000–60,000 หลัง ทั้งอาคารสูงและต่ำ
เกาะยาวยังสามารถช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งของสิงคโปร์ โดยการสร้างเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ กักเก็บน้ำจืดที่เคยถูกระบายลงทะเล ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาน้ำจากแม่น้ำโจฮอร์ของมาเลเซียที่เคยเป็นข้อพิพาทด้านการเมืองและทรัพยากร น้ำจืดนี้จะช่วยรองรับความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสองเท่าภายใน พ.ศ. 2608
การก่อสร้างเกาะเทียมจะใช้เวลาหลายทศวรรษ เนื่องจากต้องวางแผนและออกแบบอย่างรอบคอบ รวมถึงให้ดินและวัสดุถมที่เรียงตัวเสถียรพอที่จะสร้างอาคารได้อย่างปลอดภัย การถมดินขนาดใหญ่ต้องใช้วัสดุจำนวนมหาศาล ซึ่งปกติเป็นทรายที่นำเข้าจากต่างประเทศ แต่หลายประเทศในภูมิภาคเคยจำกัดการส่งออกเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม สิงคโปร์จึงกำลังทดลองใช้วัสดุทดแทน เช่น เถ้าจากขยะมูลฝอยและเศษวัสดุก่อสร้าง
แม้เกาะยาวจะช่วยเสริมความมั่นคงทางน้ำและสร้างพื้นที่ใหม่ แต่ก็มีข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมหลายประการ การถมดินอาจกระทบต่อสัตว์ชายฝั่งและระบบนิเวศ เช่น ปูแอ่งรองเท้า เต่าหัวตะกั่ว และนก Malaysian plover นักสิ่งแวดล้อมยังเตือนถึงผลกระทบต่อกระแสน้ำชายฝั่งและแหล่งอาหารของสัตว์น้ำ
โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดการวางแผนระยะยาวที่เป็นเอกลักษณ์ของสิงคโปร์ ซึ่งประเทศนี้เน้นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความต้องการของประชากรในอนาคต ตั้งแต่การถมดินช่วงปี 2503-2513 จนถึงการพัฒนาเกาะเทียมใหม่ โครงการเกาะยาวถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามยั่งยืนเชิงพื้นที่ในการสร้างความมั่นคงด้านน้ำและที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้ เกาะยาวยังถือเป็นแนวทางตัวอย่างสำหรับประเทศเกาะอื่น ๆ ที่เผชิญกับความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น เช่น อินโดนีเซียที่วางแผนสร้างเขื่อนป้องกันกรุงจาการ์ตา และมัลดีฟส์ที่เสนอสร้างเกาะเทียมเพื่อป้องกันชายฝั่ง ทั้งนี้ สิงคโปร์เน้นการผสมผสานระหว่างวิศวกรรมและวิธีธรรมชาติ เช่น การสร้างแนวหอยนางรม ขยายป่าชายเลน และสร้างแนวปะการังนอกชายฝั่ง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นทางนิเวศ
ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบและการเตรียมความพร้อมระยะยาว เกาะยาวจึงเป็นทั้งโครงการป้องกันน้ำทะเลและโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ใหม่ ตอบสนองทั้งความต้องการที่อยู่อาศัย การจัดการน้ำ และความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
