Designing Homes: Longevity Through Innovation Longevity เริ่มต้นที่ "บ้าน"

Longevity เริ่มต้นที่ “บ้าน”
ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน “บ้าน” ไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยอีกต่อไป แต่กลายเป็น “ผู้ดูแล” ที่ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพมากขึ้น นี่คือสาระสำคัญจากการบรรยายของ คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม (Head of Digital Home, True Digital Group) และ คุณยศพล อรรถจริยา (Specialist: Sales & Channel Development, True Digital Group)
ภายใต้หัวข้อ “Designing Homes: Longevity Through Innovation”
บ้านอัจฉริยะเพื่ออายุยืนอย่างมีคุณภาพ
ผู้บรรยายชี้ให้เห็นว่า “อายุยืนยาวอย่างเดียวไม่พอ หากไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี” เป้าหมายของเทคโนโลยี Smart Home จึงไม่ใช่แค่ทำให้เราอยู่ได้นานขึ้น แต่ต้องทำให้เรา “อยู่ดี” ด้วย โดยใช้พลังของ IoT (Internet of Things) และ AI ที่ทำให้บ้านสามารถ “รู้ใจ” และดูแลผู้อยู่อาศัยได้อย่างชาญฉลาด
แนวคิดของ TrueX Home จาก True Digital Group ถูกออกแบบใน 3 มิติหลัก คือ Safety (ความปลอดภัย), Saving (การประหยัดพลังงาน) และ Wellness (ความเป็นอยู่ที่ดี)
1. บ้านที่ปลอดภัย (Safety)
จุดเริ่มต้นของบ้านอัจฉริยะคือ “การป้องกันไม่ให้สิ่งร้ายเกิดขึ้นก่อน” เทคโนโลยีภายในบ้านจึงมุ่งสร้างความปลอดภัยในทุกมิติ เช่น
ระบบตรวจจับภัยอัจฉริยะ: มีเซ็นเซอร์จับควัน ไฟไหม้ เสียงกระจกแตก และอุณหภูมิสูงผิดปกติ
การดูแลผู้สูงอายุ: ใช้เทคโนโลยี “Fall Detection” ตรวจจับการล้มและส่งสัญญาณเตือนทันที
การควบคุมจากระยะไกล: สามารถสั่งปิดเตาแก๊สหรือเมนเบรกเกอร์ผ่านสมาร์ตโฟนได้ แม้อยู่ต่างประเทศ
Safety Dashboard: สรุปเหตุการณ์ผิดปกติในบ้าน พร้อมระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติจาก AI
กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ (AI Camera):
Daily Highlights สรุปเหตุการณ์ย้อนหลังแบบอัตโนมัติ
Video Search พิมพ์ค้นหาภาพเหตุการณ์ เช่น “รถที่มาหน้าบ้านสัปดาห์ก่อน” และได้ผลลัพธ์ในไม่กี่วินาที
2. บ้านที่ประหยัดพลังงาน (Saving)
เทคโนโลยี Smart Home ยังช่วยให้การใช้ชีวิต “ยั่งยืนทางการเงิน” ด้วยระบบบริหารพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
Energy Dashboard: แสดงการใช้ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์และระบุจุดที่ใช้พลังงานเกินจำเป็น
การเชื่อมต่อกับ Solar Solution: วิเคราะห์ความสมดุลระหว่างพลังงานที่ผลิตและพลังงานที่ใช้
AI Optimization: ปรับการใช้พลังงานอัตโนมัติ เช่น ลดอุณหภูมิแอร์เมื่อผู้ใช้นอนหลับ
ระบบไฟอัจฉริยะ: เปิดเฉพาะเมื่อมีคนหรือสัตว์เคลื่อนไหว ลดการสูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็น
แนวคิดนี้ช่วยให้บ้าน “ไม่กินเงิน” และทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว
3. บ้านที่ดูแลสุขภาพและความสุข (Wellness)
บ้านอัจฉริยะยังมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพกายและใจของผู้อยู่อาศัย
Automated Wake-up: ระบบตื่นนอนอัตโนมัติที่ใช้เสียงเพลง แสงสว่าง กลิ่นอโรม่า และอุณหภูมิที่เหมาะสม กระตุ้นให้ร่างกายตื่นอย่างสดชื่น
Waking Detection: ใช้ไมโครเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวเมื่อตื่น เพื่อเริ่มกระบวนการตื่นนอนอัตโนมัติ
ระบบ Touchless และ Automation: ทุกอย่างทำงานเองโดยไม่ต้องสั่ง
การเพิ่มเวลาคุณภาพ: ความสะดวกนี้ไม่ได้ทำให้คนขี้เกียจขึ้น แต่ช่วยให้มีเวลาทำสิ่งสำคัญอื่น ๆ มากขึ้น
TrueX Home: บ้านอัจฉริยะที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน
TrueX Home ออกแบบตามหลัก Inclusivity และ Affordability
Inclusivity: รองรับทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง
Affordable: ราคาอุปกรณ์อยู่ในระดับที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาท
ระบบยังถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย:
ติดตั้งแบบ “Plug & Play” ไม่ต้องเดินสายไฟ
รองรับคำสั่งเสียง ภาษาไทย
ทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อผ่าน แอปเดียว (TrueX App) และใช้ AI เดียวกัน (Single AI)
ผู้บรรยายเปรียบเทียบอนาคตของเทคโนโลยีว่า “AI ควรเป็นเหมือนอากาศ มองไม่เห็น แต่ขาดไม่ได้” บ้านในอนาคตจึงควรเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว อุปกรณ์ Smart Home ของ TrueX ยังสามารถ “อัปเกรด” ฟีเจอร์ได้ตลอดเวลา ผ่านระบบ Digital Subscription เหมือนการอัปเดตแอปพลิเคชัน ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ทุกครั้งที่เทคโนโลยีพัฒนา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
