รีเซต

เปิดสาระงบ'66 วงเงิน 3.1 ล้านล้าน รัฐจัดใส่ 'งบกลาง' มากสุด กลาโหมขอ 1.9 แสนล้าน

เปิดสาระงบ'66 วงเงิน 3.1 ล้านล้าน รัฐจัดใส่ 'งบกลาง' มากสุด กลาโหมขอ 1.9 แสนล้าน
มติชน
28 พฤษภาคม 2565 ( 12:43 )
81
เปิดสาระงบ'66 วงเงิน 3.1 ล้านล้าน รัฐจัดใส่ 'งบกลาง' มากสุด กลาโหมขอ 1.9 แสนล้าน

เปิดร่างงบฯ 66 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท เผย หนี้สาธารณะสิ้นม.ค.65 ยังไม่เกินเพดานกม.กำหนด จัด 5.9 แสนล้านบาทเข้างบกลาง สูงอันดับหนึ่ง ส่วนกลาโหม เสนอขอ 1.9 แสนล้านบาท มากเป็นอันดับ 6 ลดจากปีเดิม 4.3 พันล.

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน เวลา 09.30 น. โดยมีวาระพิจารณาเรื่องสำคัญ คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จำนวน 3.185 ล้านล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากงบประมาณ ปี 2565 จำนวน 85,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.74 ซึ่งวงเงินงบประมาณดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.79 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

ทั้งนี้ สำนักงบประมาณ ได้คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2565 ว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 3.5-4.5 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศจากการผ่อนคลายของผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 การปรับตัวดีขึ้นของภาคการท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการส่งออกสินค้าที่ขยายตัว อยู่ในเกณฑ์ดี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ได้แก่ ผลกระทบของสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เงื่อนไขด้านฐานะการเงินของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ การกลายพันธุ์และการระบาดของเชื้อไวรัส และความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 1.5-2.5

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 3.2-4.2 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์ภายในประเทศ การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์ดี ในขณะที่ยังมีข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก การกลายพันธุ์และการระบาดของไวรัส รวมทั้งการลดลงของแรงขับเคลื่อนทางการคลัง โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.5–1.5

นอกจากนี้ สำนักงบประมาณ ยังเปิดแผยว่า หนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 มกราคม 2565 มีจำนวน 9.73 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56.9 ของจีดีพี ประกอบด้วย หนี้ที่เป็นข้อผูกพันของรัฐบาลซึ่งเกิดจากการกู้ยืมโดยตรง และการค้ำประกันเงินกู้โดยรัฐบาล จำนวน 9.28 ล้านล้านบาท และหนี้ที่รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกัน จำนวน 4.47 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 2.96 แสนล้านบาท ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3.96 แสนล้านบาท ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 5.49 แสนล้านบาท ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 7.59 แสนล้านบาท ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 1.22 แสนล้านบาท ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารการจัดการภาครัฐ 6.58 แสนล้านบาท และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ 4.02 แสนล้านบาท

สำหรับงบประมาณรายจ่ายจำแนกตามกระทรวงและหน่วยรับ 10 อันดับแรกที่ได้รับงบประมาณ มีดังนี้ อันดับหนึ่ง ได้แก่ งบกลาง 5.9 แสนล้านบาท อันดับสอง กระทรวงศึกษาธิการ 3.259 แสนล้านบาท แต่ลดจากงบฯ ปี 2565 จำนวน 4.5 พันล้านบาท อันดับสาม กระทรวงมหาดไทย 3.255 แสนล้านบาท อันดับสี่ กระทรวงการคลัง 2.85 แสนล้านบาท

อันดับห้า ทุนหมุนเวียน2.06 แสนล้านบาท อันดับหก กระทรวงกลาโหม 1.97 แสนล้านบาท แต่ลดจากงบฯ ปี 2565 จำนวน 4.3 พันล้านบาท อันดับเจ็ด กระทรวงคมนาคม 1.8 แสนล้านบาท อันดับแปด รัฐวิสาหกิจ 1.62 แสนล้านบาท อันดับเก้า กระทรวงสาธารณสุข 1.56 แสนล้านบาท และอันดับสิบ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1.26 แสนล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง