กว่า 80 ชาติผนึกกำลังใน COP30 เร่งทำ “โรดแมปยุติฟอสซิล” ช่วยดึงโลกออกจากวิกฤตโลกร้อน

การประชุมสุดยอดโลกร้อน COP30 เดินหน้าเข้าสู่ช่วงเจรจาที่ตึงเครียด เมื่อมากกว่า 80 ประเทศจากแอฟริกา เอเชีย ละตินอเมริกา แปซิฟิก รวมถึงชาติสมาชิกสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ออกมาเรียกร้องร่วมกันให้ “โรดแมปยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล” กลายเป็นผลลัพธ์หลักของการประชุม แม้จะถูกต่อต้านอย่างหนักจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่และเศรษฐกิจมหาอำนาจบางประเทศก็ตาม
กลุ่มประเทศเหล่านี้ประกาศจุดยืนร่วมกันในระหว่างการแถลงข่าวใหญ่ในเมืองเบเลง โดยย้ำว่าการ “เปลี่ยนผ่านพลังงานจากฟอสซิล” ต้องถูกบรรจุไว้ในเจรจา หากโลกต้องการรักษาเป้าหมายจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสตามข้อตกลงปารีส การเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากภาคประชาชนและนักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ซึ่งมองว่าเป็นสัญญาณสำคัญของการเปลี่ยนผ่านยุคพลังงาน
หนึ่งในประเด็นความขัดแย้งตลอดการประชุมคือทางการบราซิลในฐานะเจ้าภาพ ได้ปฏิเสธที่จะใส่ประเด็น “การเปลี่ยนผ่านพลังงานจากฟอสซิล” ลงในวาระหลักของการประชุม รวมถึงไม่มีการบรรจุไว้ในกระบวนการปรึกษาหารือของประธานการประชุมในประเด็นยากที่สุด 4 ด้าน ได้แก่
- การเงิน
- การค้า
- ความโปร่งใส
- ความอ่อนแอของแผนลดการปล่อย (NDCs) ของแต่ละประเทศ
หลังถูกกดดันมาตลอด บราซิลจึงเสนอร่างข้อความล่าสุดที่เอ่ยถึง “โรดแมปยุติฟอสซิล” เป็นเพียงหนึ่งใน “ทางเลือก” ซึ่งหลายประเทศมองว่ายังอ่อนเกินไปและไม่ชัดเจนว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง
รัฐมนตรีด้านพลังงานและทูตด้านสภาพภูมิอากาศจากหลายประเทศ ระบุสาเหตุที่ต้องรวมพลังดังนี้ ประเทศต่าง ๆ เชื่อว่า หากไม่มีแผนลดการใช้ฟอสซิลอย่างจริงจัง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาเป้าหมาย 1.5 องศา ซึ่งโรดแมปนี้จะไม่บังคับให้ทุกประเทศเดินตามเส้นทางเดียวกัน แต่จะช่วยกำหนด “แนวทางชัดเจน” ที่คำนึงถึงบริบทของแต่ละประเทศ โดยประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่งต้องการการสนับสนุนด้านการเงินและเทคโนโลยี เพื่อเดินหน้าการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ซึ่งรัฐมนตรีจากวานูอาตูให้ความเห็นว่า ร่างข้อความปัจจุบันยัง “ไม่เข้มแข็งพอ” และควรมีเป้าหมายชัดเจน วัดผลได้ และชี้ให้เห็นขั้นตอนของโรดแมปอย่างเป็นรูปธรรม
แม้มีประเทศสนับสนุนเป็นจำนวนมาก แต่กลไกของ UNFCCC ใช้ “ฉันทามติ” ทำให้เพียงไม่กี่ประเทศสามารถขัดขวางข้อตกลงได้ โดยคาดว่าผู้ที่จะคัดค้านมากที่สุดคือ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย โบลิเวีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น ส่วนสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศหลักเพียงชาติเดียวที่ไม่เข้าร่วมการประชุมในเบเลงปีนี้ และบราซิลเองก็มีความเห็นขัดแย้งภายในรัฐบาล ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนการเลิกฟอสซิลกับฝ่ายที่ต้องการเดินหน้าการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวในเบเลงกว่า 40,000 คน รวมถึงนักเคลื่อนไหวทั่วโลก กดดันให้ผู้นำประเทศต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อฟอสซิล โดยมองว่าการออกโรดแมปจะเป็นสัญญาณสำคัญจากทั้งประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศชี้ว่า หาก COP30 ไม่สามารถยืนยันการลดละจากฟอสซิลอย่างเป็นระบบ โลกจะยิ่งห่างไกลจากการควบคุมสภาวะโลกร้อนในศตวรรษนี้ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมบราซิลระบุว่า โรดแมปนี้คือ “คำตอบด้านจริยธรรมของมนุษยชาติ” พร้อมขอให้ทุกประเทศ “กล้าหาญพอที่จะพิจารณาอย่างจริงจัง”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
