มัลดีฟส์ประเทศแรกในโลก ห้ามซื้อ ขาย และสูบบุหรี่ ในกลุ่มคนที่เกิดปี 2007 เป็นต้นไป

กระทรวงสาธารณสุขของมัลดีฟส์ ระบุว่า นี่เป็นก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์ประเทศในความพยายามปกป้องสุขภาพของประชาชนและส่งเสริมคนรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่

แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า มาตรการนี้ทำให้มัลดีฟส์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่จะบังคับใช้การห้ามสูบบุหรี่ทั่วประเทศ

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดล้านคนทั่วโลกในแต่ละปี อย่างปี 2021 ประชากรผู้ใหญ่ของมัลดีฟส์ (อายุ 15-69 ปี) มากกว่าหนึ่งในสี่สูบบุหรี่ อัตราดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 13-15 ปี ซึ่งนับเป็นอัตราที่สูงมาก

ส่วนในสหรัฐฯ ผู้ใหญ่เกือบ 20% สูบบุหรี่ (2022) และในสหราชอาณาจักร ผู้ใหญ่เกือบ 12% สูบบุหรี่ (2023)

แม้ว่ามัลดีฟส์จะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายดังกล่าว แต่ก็มีความพยายามที่จะห้ามสูบบุหรี่ในบางประเทศแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ และยังเป็นที่ถกเถียงกันมาก

อย่างนิวซีแลนด์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เข้าใกล้การออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ที่คล้ายคลึงกันนี้ในปี 2022 เมื่อรัฐบาลสามารถผ่านกฎหมายห้ามขายบุหรี่ให้ผู้ที่เกิดหลัง 1 มกราคม 2009

แต่คำสั่งห้ามซึ่งควรจะมีผลบังคับใช้ในปี 2024 กลับไม่ประสบผลสำเร็จ เพียงหนึ่งปีหลังจากที่ร่างกฎหมายผ่าน กฎหมายก็ถูกยกเลิกเพื่อนำเงินไปช่วยจ่ายภาษี สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและกลุ่มต่อต้านยาสูบ

นอกจากนี้ ยังเคยมีการเสนอร่างกฎหมายที่คล้ายคลึงกันนี้ในสหราชอาณาจักร แต่ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายได้ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภา โดยห้ามผู้ที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม 2009 สูบบุหรี่ และทำให้กฎระเบียบเกี่ยวกับการขายยาสูบและผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเข้มงวดขึ้น

คำสั่งห้ามของมัลดีฟส์เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของประเทศในการปราบปรามยาสูบและการสูบบุหรี่ ซึ่งรวมไปถึงบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นเวลาหลายปี

รัฐบาลได้สั่งห้ามการนำเข้า การครอบครอง การใช้ การผลิต และการจัดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภทในมัลดีฟส์เมื่อปลายปี 2024 ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

นอกจากนี้มัลดีฟส์ยังมีแผนจะตั้งคลินิกต้านการสูบบุหรี่ ที่จะช่วยประชาชนเลิกบุหรี่ และเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีถึงขั้นเสนอแจกเงินให้กับประชาชนที่เลิกบุหรี่ได้อย่างถาวรด้วย