รู้จัก "เชอร์โนบิลบินได้" ยิงฉลองวันเกิด “ปูติน”

เกิดกระแสความกลัวไม่หยุดไม่หย่อนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะสั่งทดลองขีปนาวุธร่อน”บูเรเวสต์นิก” ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งหัวรบนิวเคลียร์และระเบิดนิวเคลียร์ หากเป็นเช่นนั้น จะเป็นการทดลองขีปนาวุธร่อน”บูเรเวสต์นิก” เจ้าของฉายา ฟลายอิ้ง เชอร์โนบิล เป็นครั้งที่ 14 หลังจากก่อนหน้านี้ รัสเซียพยายามทดลองมาแล้ว 13 ครั้ง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า รัสเซียทดลองยิงขีปนาวุธ”บูเรเวสต์นิก” ในสัปดาห์นี้ เพื่อฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 71 ของประธานาธิบดีปูติน
ซึ่งอาจสอดคล้องต่อรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ในสหรัฐฯ ที่บอกว่า จากภาพถ่ายดาวเทียม และข้อมูลการบิน พบว่า รัสเซียกำลังเตรียมการทดลองหรืออาจทดลองไปแล้วสำหรับขีปนาวุธ”บูเรเวสต์นิก” ที่ปูตินบอกว่า เป็นหนึ่งในหกอาวุธที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย
ทั้งนี้ พบการเคลื่อนไหวของเครื่องบินและยานยนต์รอบฐานอาร์กติก ก่อนการทดลองขีปนาวุธ”บูเรเวสต์นิก” หรือที่องค์การนาโตรู้จักในชื่อที่เรียกว่า SSC-X-9 Skyfall
ทุกครั้งของการทดลองก่อนหน้านี้ 13 ครั้ง ดูเหมือนว่าประสบความล้มเหลว รวมถึงการทดลองปี 2019 เกิดเหตุระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งพยายามกอบกู้อาวุธลับสุดยอด ประธานาธิบปูติน ยกย่องผู้เสียชีวิตว่า เป็นวีรบุรุษแห่งชาติ แต่ไม่ได้บอกว่า พวกเขาเสียชีวิตอย่างไร
ขีปนาวุธร่อน”บูเรเวสต์นิก” ถูกมองว่า เป็นอาวุธอันตราย เนื่องจากพิสัยทำการไกลถึง 14,000 ไมล์ ดังนั้นจึงหมายความว่า ขีปนาวุธดังกล่าว สามารถยิงโจมตีแผ่นดินสหรัฐฯจากที่ใดที่หนึ่งในรัสเซีย
ขีปนาวุธร่อน”บูเรเวสต์นิก” ใช้เทคโนโลยีสเตลธ์ และสามารถบินต่ำ โดยที่เรดาร์ไม่สามารถตรวจพบ อีกทั้งไม่มีระบบป้องกันใดของชาติตะวันตกสามารถสกัดขีปนาวุธ”บูเรเวสต์นิก” ที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีปูติน เคยประกาศเมื่อปี 2018 ว่า ขีปนาวุธ”บูเรเวสต์นิก” เป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของรัสเซีย
มีรายงานว่า ปูตินกำลังสร้างห้องทดลองลับของเขาสำหรับผลิตอาวุธวันโลกาวินาศ ซึ่งห่างจากนอร์เวย์ เพียง 80 กม. ทำให้ชาวนอร์เวย์ต่างกลัวรังสี โดยหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของนอร์เวย์ Barents Observer ติดตามโครงการอาวุธและการทดสอบของรัสเซียอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
Burevestnik คืออาวุธวันโลกาวินาศขับเคลื่อนโดยเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กซึ่งระบายความร้อนด้วยอากาศภายนอกที่ไหลผ่านแกนยูเรเนียม ทิ้งไอโซโทปกัมมันตภาพรังสีไว้ในขณะที่กําลังบิน นั่นคือเหตุผลที่การทดสอบอาวุธเกิดขึ้นในสถานที่ห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ที่มา The New york time , metro uk