"ชาตรามือ" ต้นตำรับชาไทย ปีที่ 80 เปิดเกมรุกตลาดโลก l การตลาดเงินล้าน

คุณพราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในระยะข้างหน้า บอกว่ามีเป้าหมายผลักดัน แบรนด์ชาตรามือ มุ่งสู่การเป็น โกลบอล แบรนด์ ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ การขยายตลาดต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ, การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ และการทำ โปรเจกต์ความร่วมมือกับหลากหลายแบรนด์
ในการขยายตลาดจะผลักดันการส่งออกสินค้าในตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีตลาดอยู่แล้วกว่า 21 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายสินค้าจากเอเชียเป็นหลัก ส่วนสาขาร้านชาตรามือในต่างประเทศ ขณะนี้อยู่แล้ว 114 สาขาใน 11 ประเทศ และปีนี้จะเปิดเพิ่มให้ครบเป็น 130 สาขา โดยมีแผนจะขยายในอีก 4 ประเทศเพิ่มเติม คือ แคนาดา ลาว เม็กซิโก และอินโดนีเซีย
สำหรับสาขาในประเทศ จะเป็นสาขาลงทุนเองซึ่งขณะนี้มีจำนวน 220 สาขาทั่วประเทศ และภายในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 250 สาขา เน้นเปิดสาขาในเมืองรองให้มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ โดยภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะเปิดตัวเครื่องดื่มฟังชันนอล ดริ้ง คอมบูฉะ ที ซึ่งเบื้องต้นจะมีจำหน่ายหน้าร้านของชาตรามือ เพื่อทดลองตลาดก่อน และยังมีเครื่องดื่ม ชาไทย คอมบูฉะ, ไอศกรีมชาไทย และชาเขียว รวมถึง ชาไทยไม่แต่งสี และชาไทยสีธรรมชาติ
โดยที่ผ่านมามีการจำหน่ายชาไม่ใส่สีมานานแล้ว ส่งออกไปยังประเทศที่มีข้อกำหนดไม่ให้ใส่สีในใบชา แต่ไม่ใช่การแบน หรือการห้ามใส่สีผสมอาหาร ส่วนในไทย จากที่เกิดกระแสความไม่สบายใจในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น จึงนำมาเพิ่มเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีความกังวล โดยชาไม่แต่งสี จะเริ่มจำหน่ายในเดือนหน้า ในราคาจะไม่ต่างจากราคาชาไทยปกติ ที่ยังมีจำหน่ายอยู่เหมือนเดิม ส่วนชาไทยสีธรรมชาติ จะเป็นการใส่สีจากธรรมชาติเข้าไป จะมีจำหน่ายต้นไตรมาส 3 ปีนี้ และคาดว่าราคาจะสูงกว่าราคาปกติไม่เกินร้อยละ 30
และกลยุทธ์สุดท้าย ก็คือการคอลแลป สร้างความร่วมมือที่หลากหลายร่วมกับพันธมิตรธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างชาติ เพื่อต่อยอดการสร้างสรรค์แบรนด์ และเครื่องดื่มชาตรามือในรูปแบบต่างๆ โดยไม่จำกัดกรอบอยู่แค่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และปีนี้จะมีการจัด เทศกาลชาไทย ครั้งใหญ่ครั้งแรก ฉลองครบรอบ 80 ปีของชาตรามือ อีกด้วย
ผู้บริหารชาตรามือ บอกด้วยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง คาดว่ายังชะลอตัวจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ และกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวตาม รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ลดลงไป ส่งผลกระทบกับบางสาขาที่มีกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่จากการมุ่งขยายตลาดและขยายสาขา ทำให้ปีนี้ยังมั่นใจเติบโตที่ร้อยละ 20 ตามเป้าหมาย และภายในปี 2570 ตั้งเป้ายอดขายแตะ 5,000 ล้านบาท จากยอดขายกว่า 3,000 ล้านบาทในปี 2567 ที่ผ่านมา
ส่วนการแข่งขันในตลาดที่มีเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าจะยิ่งผลักดันทำให้ตลาดชาเติบโตขึ้นตามไปด้วย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
