'หนุ่มเมายา' ขโมยรถกระบะจากอู่ เจ้าของ รุดแจ้งตร. พบจอดหลับคาวัด (มีคลิป)
วันที่ 17 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้รับแจ้งจาก สภ.พรหมคีรี ว่า พบคนร้ายที่ขโมยรถกระบะจากอู่รถยนต์ ในพื้นที่ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี แล้ว เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทาง จนท.ตร.ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด
โดยคลิปจากกล้องวงจรเปิดเผยให้เห็นชายวัยกลางคน ลักษณะผมเผ้ารกรุงรัง สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อแขนกุดสีเทา กำลังเดินด้อม ๆ มอง ๆ อยู่บริเวณข้างรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ ตอนเดียว สีบรอนซ์ ประตูสีดำ ทะเบียน ผฉ.1079 นครศรีธรรมราช ที่จอดอยู่หน้าอู่ซ่อมรถ ชื่อ ‘ตาเล็กการช่าง’ เลขที่ 133/2 ม.8 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช และมองซ้ายมองขวา ก่อนเปิดประตูขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ แล้วจึงสตาร์ทเครื่อง ขับรถคันดังกล่าวออกไปจากอู่เสมือนเป็นเจ้าของรถ ในคลิปยังเผยให้เห็นถึง หญิงคนหนึ่งเดินออกมาดูเหตุการณ์ ในลักษณะมึนงง ว่าใครขับรถของลูกค้า ออกไป ซึ่งเหตุเกิดในเวลา 18.03 น. ของวันที่ 15 ม.ค.2565
โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าของอู่ได้โทรศัพท์แจ้ง นายพิงพรรณ บุญเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ปภ.เทศบาลตำบลพรหมโลก และเป็นเจ้าของบ้านที่มาเช่าเปิดเป็นอู่ซ่อมรถทราบ ก่อนแจ้งตำรวจ สภ.นบพิตำ ทราบ เพื่อช่วยกันออกค้นหา
ซึ่ง ร.ต.อ.สันติ ชาตระกาญจน์ รอง สว.สส.สภ.นบพิตำ ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.ปากลง อ.นบพิตำ ช่วยกันออกตระเวนค้นหารถและแกะรอยคนร้ายตลอดทั้งคืน ตามหลักฐานจากคลิปกล้องวงจรปิด จนในที่สุด เวลาประมาณ 06.00 น. พบรถต้องสงสัย ที่คาดว่าถูกขโมยไป จอดอยู่ภายในวัดกรุงนาง ต.กรุงชิง โดยมีคนร้ายนอนหลับอยู่ภายในรถคันดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมของกลางรถกระบะ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นบพิตำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และตรวจหาสารเสพติด ผลปรากฏว่า พบสารเสพติดอยู่ในร่างกาย
จากการสอบสวนผู้ต้องหา คือ นายก้องเกียรติ เรืองนุ่น อายุ 48 ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองนครศรีธรรมราช ในเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว ที่ขโมยมาจากเขตพื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช และขับขี่มาเรื่อย ๆ ตามเส้นทาง ก่อนไปจอดทิ้งไว้ใน อ.นบพิตำ ก่อนเดินมาถึงอู่ ก่อนขโมยรถกระบะไปดังกล่าว โดยไม่ได้คิดอะไร
ต่อมา สภ.นบพิตำ ได้แจ้งให้เจ้าของรถทราบ และให้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.พรหมคีรี ท้องที่เกิดเหตุ ซึ่ง น.ส.อรสา บุญนาค อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/7 ม.3 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ เจ้าของพร้อมเจ้าของอู่ ได้ไปรับรถ
น.ส.อรสา บุญนาค เจ้าของรถ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ แม้ไม่สูญเสียทรัพย์สินไป แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับเจ้าของรถที่จะนำรถไปเข้าอู่ ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังที่เจ้าของอู่ไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่เป็นความบกพร่องของทางอู่ เพียงแค่เสี้ยววินาทีช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ แค่ไม่ถึง 1 นาที ที่ตนเองกำลังขับรถนำเงินไปจ่ายค่าเปลี่ยนยางให้ทางอู่ ก็ขับรถสวนทางกับรถของตนเองที่ขับสวนทางไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้นึกเอะใจอะไรว่าถูกขโมย กระทั่งไปถึงอู่ จึงทราบว่ารถถูกขโมยไป โชคดีที่ตำรวจสามารถติดตาหาและนำกลับคืนมาได้ ตัวรถ ไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น มีเพียงลำโพงหลุดออกมา คาดว่าเกิดจากการนอนทับ แต่ได้ซ่อมเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้พบผู้ก่อเหตุ พยายามสอบถามถึงเหตุผลในการก่อเหตุ แต่ไม่ได้ความ เนื่องจากยังอยู่ในอาการมึนเมา คาดว่าน่าจะเมายาเสพติด อย่างไรก็ตาม ทราบจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า พบเห็นผู้ก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะไปอาศัยข้าววัดกินเป็นประจำ ก่อนหลังจากขโมย จยย.จากในเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อมุ่งหน้าไปยังวัดกรุงนาง แต่ จยย.เกิดน้ำมันหมด จึงเดินย้อนกลับมา แล้วเดินวันเวียนอยู่ที่หน้าอู่ แต่ไม่มีใครเอะใจ เพราะพบเห็นเป็นประจำ จึงไม่คิดว่าจะลงมือก่อเหตุขโมยรถ และขับรถกลับไปที่วัด ก่อนไปนอนหลับคารถที่ขโมยไป