รีเซต

ไทม์ไลน์ 'อิสระ 01' กัญชาพันธุ์แรก ไม่ติดสิทธิบัตร ผ่านเกณฑ์-ขึ้นทะเบียนพันธุ์พืชไทย

ไทม์ไลน์ 'อิสระ 01' กัญชาพันธุ์แรก ไม่ติดสิทธิบัตร ผ่านเกณฑ์-ขึ้นทะเบียนพันธุ์พืชไทย
มติชน
6 มีนาคม 2564 ( 13:09 )
175
ไทม์ไลน์ 'อิสระ 01' กัญชาพันธุ์แรก ไม่ติดสิทธิบัตร ผ่านเกณฑ์-ขึ้นทะเบียนพันธุ์พืชไทย

นับตั้งแต่ กรมวิชาการเกษตรได้รับรองกัญชา “พันธุ์อิสระ01” เป็นพันธุ์พืชที่ขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ.2518 พันธุ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา “อิสระ01” ก็ถูกจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ โดยทั้งผู้อยากปลูกกัญชา และนักปรับปรุงพันธุ์พืช ก็อยากมีไว้ครอบครอง เพราะถือว่าเป็นกัญชาสายพันธุ์ไทยสายพันธุ์แรกที่ไม่ติดสิทธิบัตร หากจะนำมาใช้เป็นพันธุ์ขยาย พัฒนาสายพันธุ์ให้ดีมากยิ่งขึ้นและให้สารสำคัญในปริมาณที่สูงเพื่อใช้ทางการแพทย์ไทยนั้นคงทำได้ไม่ยาก

 

“นพ.อิสระ เจียวิริยบุญญา” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี ได้ขึ้นพูดบนเวทีสัมมนา “อิสระ 01 : Why and What Next” ในงานมหกรรม “กัญชา กัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีประเด็นของกัญชาพันธุ์อิสระ 01 ที่น่าสนใจอยู่ว่า หลังจากประกาศรับรองพันธุ์พืชกัญชา “อิสระ 01” ทุกคนได้เกิดคำถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมมีพันธุ์พืชกัญชาอิสระ 01 และมีความสำคัญอย่างไร”

 

นพ.อิสระ ให้เหตุผลว่าที่ใช้ชื่อกัญชา“พันธุ์อิสระ 01” เนื่องจากเป็นพืช ซึ่งตั้งแต่ปี 2477 เป็นต้นมา ถูกห้ามมิให้ผู้ใดปลูกกัญชง หรือมีพันธุ์กัญชาไว้ครอบครอง อนุญาตเฉพาะราย ปลูกหรือมีพันธุ์กัญชาเพื่อการทดลอง หรือเพื่อประโยชน์ทางโรคศิลปะเท่านั้น รวมถึงการมีพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งมีพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) ปี 2562 ที่ได้เปิดช่องให้นำยาเสพติดประเภท 5 “กัญชา-กระท่อม” ไปใช้ทางการแพทย์ นั่นหมายความว่า “อิสระ 01” ได้ถูกคุมขังมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2477 ถึง 2562 รวมระยะเวลากว่า 85 ปีที่ถูกจองจำเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

 

“ใครก็ตามที่ครอบครองกัญชาก่อนวันที่ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ ซึ่งมีความผิดในฐานะครอบครอง ผลิต ปลูก นิรโทษกรรมให้ บังเอิญผมเป็นบุคคลหนึ่งที่ปลูกกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ผมได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรม ต้นกัญชาที่ผมครอบครองอยู่ 20 ต้น 40 เมล็ด เมื่อถูกละเว้นความผิด พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ.2518 จึงมอบเมล็ดส่วนหนึ่งให้กับม.แม่โจ้ โดยตอนที่ขอปลูก อย. ได้ให้แจ้งชื่อพันธุ์ว่ามีพันธุ์พืชกัญชาอยู่ในประเทศไทย เราตอบไม่ได้ว่ามันคือสายพันธุ์ไหน รู้แต่ว่ามาจาก 3,000 ปีที่แล้ว อยู่แถวม้งเชียงราย ปลูกมาโดยตลอด ก็เลยตกลงกันให้เป็นชื่ออิสระ 01”

 

แน่นอนว่า การนำพันธุ์พืชมาขอขึ้นทะเบียนกับทางกรมวิชาการเกษตร จะทำให้พันธุ์พืชนั้นได้รับความเชื่อมั่นและการยอมรับในคุณสมบัติของพันธุ์กัญชา “พันธุ์อิสระ 01” จึงจัดได้ว่าเป็นสายพันธุ์ดีของประเทศไทยพันธุ์แรกที่มีสาร Cannabinoid (CBD) ถือเป็นอีกทางเลือกให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้

 

“นับตั้งแต่ 29 มกราคม 2564 เป็นต้นไป ประเทศไทยมีพันธุ์พืชกัญชาขึ้นทะเบียนถูกต้องเป็นครั้งแรก คนไทยทุกคนมีสิทธินำอิสระ 01 ไปพัฒนาสายพันธุ์ต่อ เพื่อทำการคุ้มครอง คนที่สามารถพัฒนาต่อได้และยื่นคุ้มครองพันธุ์พืชได้ จึงจะมีสิทธิบัตรในพันธุ์พืชนั้น”

 

 

ผลักดันจดสิทธิบัตรกัญชา

นพ.อิสระ เผยว่า ต่อจากนี้ทุกคนที่มีชนิดพืชที่พันธุ์พืชใหม่สามารถยื่นจดทะเบียนคุ้มครองได้ ซึ่งขั้นตอนกรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการถึงขั้นคณะอนุกรรมการเห็นชอบแล้ว ลำดับต่อไปจะเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 และให้รัฐมนตรีออกประกาศกระทรวงต่อไป

 

ถัดจากนั้นไปกรมวิชาการเกษตร จะออกระเบียบ และประกาศที่เกี่ยวข้องกับการรับคำขอ การปลูก เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของพันธุ์พืชใหม่ คนที่มีพันธุ์พืชอยู่ในมือ หลังจากประกาศฉบับนี้ออก อย่างกัญชาพันธุ์หางกระรอก ก็จะสามารถเข้าสู่กระบวนการรับคำขอและการตรวจสอบคุณสมบัติพันธุ์พืชได้ ต้องพยายามช่วยกันที่จะคุ้มครองพันธุ์พืชสายพันธุ์กัญชาที่มีอยู่ในประเทศไทย

 

“หากไม่มีอิสระ 01 กระบวนการคุ้มครองพันธุ์พืชจะยังไม่เกิดขึ้น เพราะเราไม่มีพันธุ์พืชกัญชาของประเทศไทย ใครที่มีสายพันธุ์เฉพาะพื้นที่ อยากให้รีบดำเนินการ เพราะใช้เวลาดำเนินการอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งการที่จะคุ้มครองพันธุ์พืชได้ เมล็ดพันธุ์ต้องเป็นเมล็ดพันธุ์รับรอง และการปลูกแต่ละสายพันธุ์จะต้องนิ่งมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่จะจดทะเบียนคุ้มครองพันธุ์พืช จะต้องลงลึกถึงระดับเจนิติก ว่ามีความแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร เรากำลังจะเริ่มเสียเปรียบต่างประเทศ 2 ปีที่ผ่านมาหรือก่อนหน้านั้นที่ผ่านมา ต่างชาติพยายามมาเกี่ยวเกาะนักวิชาการของไทย เพื่อที่จะเอาเมล็ดพันธุ์ของไทยไป เพื่อตรวจสอบเจเนติกว่าของเขามีอยู่หรือเปล่า ไม่แน่เจเนติกของเราถูกต่างชาติเอาไปจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เราไม่มีทางรู้”

 

เตรียมศูนย์เพาะต้นกล้ากัญชา

นพ.อิสระ กล่าวว่า กรมการแพทย์โดยโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี เราขออนุญาตปลูก 2 ลักษณะ คือ Green House ในโรงพยาบาล และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่อุดรธานี Green House ในโรงพยาบาลทำตำรับยาไทย ชื่อ “สนั่นไตรภพ” เพื่อที่จะรักษามะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี ภายใต้คลินิกการแพทย์ไทยร่วมสมัย

“ผมปลูกอิสระ 01 ประมาณ 60 ต้น ใน 60 ต้นมีความหลากหลาย โดยเฉพาะกลิ่นเทอร์ปีน ผมตรวจ THC CBD ทุกต้น ซึ่งถัดจากนี้ไปเราจะทำแบบ Indoor ขณะเดียวกันก็จะมีการอบรมการปลูก สร้างนักปลูก เพื่อควบคุมการปลูกให้เป็นมาตรฐานประเทศไทย และอีกอันที่จะทำคือศูนย์เพาะต้นกล้ากัญชา ทำให้ได้ระดับหนึ่ง และส่งให้กับวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้ปลูก ประกอบกับอยากเพาะต้นกล้าให้ผู้ป่วย หรือประชาชน สำหรับปลูกเพื่อรักษาตัวเองด้วย โดยคนที่จะได้รับ 6 ต้นไป ต้องผ่านการอบรมการปลูก ว่าจะใช้ส่วนไหนของกัญชาหรือกัญชงเพื่ออะไร”

 

ทำคลินิกการแพทย์ไทยร่วมสมัย

ร่วมสมัยระหว่างแพทย์แผนปัจจุบันกับแพทย์แผนไทย ซึ่งในยุคสมัยนี้เป็นเรื่องของสารสกัด เป็นเรื่องของการ ตรวจตกลงว่ามีมาตรฐาน มีคุณภาพจริงไหม เป็นไปตามข้อกำหนดของผู้มีหน้าที่กำหนดหรือไม่ เราต้องก้าวข้ามจุดนี้ไป โดยแนวทางที่โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานีจะกำหนดคือ การใช้กัญชารักษามะเร็งในกลุ่มที่ ผ่าตัด ฉายแสง เช่น มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี แต่ไม่ได้รับผลดี มะเร็งระยะสุดท้าย รวมถึงมะเร็งที่กลับมาเป็นใหม่ สามารถที่จะใช้กัญชาเสริมในเรื่องนี้ได้

“ตำรับยาไทย สนั่นไตรภพที่เราทำ ถ้าได้ผล เราจะเปลี่ยนเป็นในรูปแบบแคปนิ่ม หรือซอฟต์เจล แคปซูล เป็นสารสกัดที่ดูดซึมได้ดีขึ้น ทำให้ภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการมึนงงต่างๆ ลดลง เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราเรียกว่าการแพทย์ไทยร่วมสมัย และเชื่อว่าคนไทยทำได้ เพียงแต่ว่าต้องมีความร่วมมือกัน”

ทั้งหมด เป็นการต่อยอดที่เราจะได้เห็นต่อจากนี้ ซึ่ง นพ.อิสระ ก็ได้กล่าวย้ำทิ้งท้ายว่า อิสระ 01 คือตัวแทนของความเป็นกัญชาของประเทศไทย ที่สืบสาวราวเรื่องได้ตั้งแต่สมัยยุคบ้านเชียง จ.อุดรธานี จนถึงเผ่าม้งที่อยู่เชียงราย มั่นใจและเชื่อว่าในตัวกัญชา “พันธุ์อิสระ01” อีก 5 ปีถัดไป จะมีเรื่องของการส่งออก CBD และเพื่อไม่ให้คนไทยต้องจ่ายค่าเจเนติกให้กับชาวต่างชาติ คนไทยต้องร่วมมือกันพัฒนาสายพันธุ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง