เยอรมนียกระดับคุมโควิด-19 ใช้กฎ 3G ในที่ทำงาน-ขนส่งสาธารณะ

เบอร์ลิน, 25 พ.ย. (ซินหัว) -- เยอรมนียกระดับมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ด้วยการบังคับใช้กฎ 3เก (3G - geimpft, getestet, genesen) อันหมายถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว ตรวจโรคแล้ว และหายดีแล้ว ในสถานที่ทำงานและระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งแต่วันพุธ (24 พ.ย.) ที่ผ่านมา

รัฐบาลเยอรมนีระบุว่าผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการขนส่งสาธารณะ แต่ไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือหายดีจากโรคโควิด-19 จะต้องพกหลักฐานผลตรวจโรคเป็นลบ ซึ่งไม่ใช่ที่มาจากการตรวจโรคด้วยตนเอง

ผลสำรวจของยูกอฟ (YouGov) สถาบันวิจัยตลาด ระบุว่าร้อยละ 74 ของพลเมืองเยอรมันเห็นด้วยกับการบังคับใช้กฎ 3เก ในระบบขนส่งสาธารณะ

สถาบันโรแบร์ตค็อก (RKI) ด้านโรคติดเชื้อของเยอรมนี รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 66,884 ราย ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง เพิ่มขึ้นจากสถิติของสัปดาห์ก่อนกว่า 14,000 ราย

ขณะเดียวกันอัตราการอุบัติของโรคโควิด-19 รอบ 7 วัน สูงทะลุ 400 รายเป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้นจาก 319.5 ราย เป็น 404.5 รายในวันพุธ (24 พ.ย.) ที่ผ่านมา

ด้านสมาคมสหวิทยาการเพื่อการดูแลผู้ป่วยวิกฤตและเวชศาสตร์ฉุกเฉินเยอรมัน (DIVI) ระบุว่ายอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาการหนักในเยอรมนีเพิ่มขึ้นราว 80 ราย มาอยู่ที่ 4,070 ราย ในวันพุธ (24 พ.ย.)

ไรนิเชอ โพสต์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น รายงานว่าเยนส์ ชปาห์น รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข วิจารณ์ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพราะกลัวอันตราย และถามว่า "จะต้องรอให้เกิดอะไรขึ้นอีก พวกคุณถึงจะยอมฉีดวัคซีน?"

สถาบันฯ ระบุว่าแม้เยอรมนีจะมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลายยี่ห้อให้เลือกฉีด แต่สถิติการฉีดวัคซีนของประเทศกลับชะลอตัว โดยอัตราการฉีดวัคซีนในเยอรมนี ช่วงเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2 และล่าสุดอยู่ที่ร้อยละ 68.1 ในวันอังคาร (23 พ.ย.)