แม่ลั่นไม่เผาศพลูก พลทหารดับปริศนาในค่าย คาใจเพื่อนตอบไม่ตรงกัน ยันเอาเรื่องถึงที่สุด

แม่ลั่นไม่เผาศพลูก พลทหารดับปริศนาในค่าย คาใจเพื่อนตอบไม่ตรงกัน ไร้ต้นสังกัดร่วมงานศพ อ้างติดธุระ ติดเคอร์ฟิว เผยโลงศพที่ให้มายังเป็นโลงบริจาค ยันเอาเรื่องถึงที่สุด

จากกรณี พลทหารเจษฎากร เนตรแสงสี หรือก๊อต อายุ 21 ปี สังกัดกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เสียชีวิตอย่างปริศนาภายในค่ายทหาร เมื่อวันที่ 28 เม.ย. โดยญาติได้เดินทางไปติดต่อขอรับศพ เพื่อนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.พิษณุโลก โดยตั้งสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 3 คืน

ซึ่งญาติพี่น้องที่ทราบข่าวต่างรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังหนุ่มและเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวในอนาคต แต่กลับมาเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยไร้ซึ่งข้อชี้แจ้งใดๆ จากต้นสังกัด และไม่มีผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนทหารเดินทางมาร่วมเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ผลชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์ยังระบุอีกว่า ระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว พบสารยาฆ่าหญ้าในกระเพาะอาหาร สร้างความเคลือบแคลงใจในสาเหตุการตายให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันที่ 3 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพักเลขที่ 224 ม.2 บ้านเนินสะอาด ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านของนางพยอม บุรีรัมย์ อายุ 43 ปี มารดาของพลทหารเจษฏากร เปิดเผยว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกสาว น้องก๊อตเป็นลูกชายคนเล็ก เป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อวานวันที่ 2 พ.ค. ซึ่งเป็นวันเผาศพของลูกชาย ตนได้ตัดสินใจไม่เผาศพลูก และติดต่อไปยัง รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก เพื่อขอผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกให้ชัดเจนอีกครั้ง

นางพยอม กล่าวต่อว่า ตนจะร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานต้นสังกัดของลูกชาย เพื่อให้ความจริงกระจ่างว่าลูกตนเป็นอะไรตายกันแน่ วันอาทิตย์ยังคุยกับลูกอยู่เลย พอวันจันทร์บอกว่าลูกเสีย ตนจะเอาศพลูกกลับ แต่หมอได้ขอทำการผ่าพิสูจน์ก่อน ไม่มั่นใจว่าสาเหตุหัวใจล้มเหลวเพราะอะไร มีความสงสัยการเสียชีวิตจากสารตัวหนึ่ง เป็นสารจากยาฆ่าหญ้า ซึ่งจะต้องเอาเข้าห้องแล็บตรวจอีก 1-2 สัปดาห์

ตั้งแต่วันเกิดเรื่องที่ตนเดินทางไปรับศพลูกที่ จ.ชลบุรี กลับมา ไม่เคยมีใครมาร่วมงานศพลูก จนถึงวันจะเผาก็ไม่มีตัวแทนจากทหารมาแม้แต่คนเดียว ไม่มีใครอธิบายให้ฟังว่าลูกตนเป็นอะไรตาย มีแต่นำซองขาว 30,000 บาท มาให้แค่นั้น เหมือนปล่อยเราทิ้งเลย ตนถามว่ามีประกัน มีสวัสดิการอะไรไหม เขาบอกไม่มีเลย

ตนได้ไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุเอาไว้แล้ว ตำรวจรอผลพิสูจน์อย่างเดียว วันจะเผาได้โทรไปขอให้มาร่วมงานหน่อยได้ไหม ถูกปฏิเสธอย่างเดียวมาไม่ได้ ติดธุระ ติดเคอร์ฟิว ติดราชการ มีเพียงแต่ทางตนที่พยายามติดต่อไป ตนกับลูกสะใภ้ยังติดต่อไปหาเพื่อนของลูกที่เป็นทหารด้วยกัน ต่างตอบไม่ตรงกันสักคน สรุปลูกตนเป็นอะไรตาย ก่อนลูกตายมันเกิดอะไรขึ้น

นางพยอม กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกทั้งคนเวลาเขาเกณฑ์ทหาร มีการจัดรถอย่างดี 2 ชั้น ติดแอร์มารับตัวเขาไปอย่างสมเกียรติ มีการปลูกฝังให้เขาภูมิใจที่ได้ไปรับใช้ชาติ อย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอเวลาตาย ทำให้ได้แค่เงินช่วยเหลือ 3 หมื่นบาท แถมให้ญาติเอาศพน้องกลับมาเอง แม้แต่โลงที่ใส่ร่างน้องก็ยังเป็นโลงบริจาค ตนเสียใจมาก ลูกตนตายในค่ายทหาร ในชุดทหาร ในระหว่างเป็นทหาร แต่ทำไมไม่มีใครตอบได้ว่าลูกตนเป็นอะไรตาย

"ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หากไม่มีใครตอบได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ความจริงไม่ปรากฏ ว่าสารพิษที่อยู่ในกระเพาะอาหารลูกมันเข้าไปได้ยังไง ในเมื่ออาหารที่กินก็กินกันหลายคน แต่กลับไม่มีใครเป็นอะไรเลยสักคน มีลูกเราคนเดียวที่ตาย หากความจริงไม่ปรากฏ จะไม่เผาศพลูก"

จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกตนด้วย ตอนยังไม่ได้ออกสื่อ ทางโน้นปฏิเสธอย่างเดียว พอหลังจากมีสื่อออกข่าวไป มีผู้พันโทรมาหาทันที เกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการ ค่าใช้จ่าย จะให้ช่วยเหลืออะไรไหม มีการขอโทษเสียใจอย่างยิ่ง แต่ก่อนนั้นหมายความว่ายังไง ตนไม่คิดว่าลูกชายจะฆ่าตัวตายกินยาเอง อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยากสืบหาให้ต้องการความจริง

ด้าน น.ส.ชฎาพร บัวแย้ม อายุ 22 ปี แฟนสาว กล่าวว่า มีเพื่อนของแฟนทักเฟซบุ๊กมาหาตน บอกว่าให้ทำใจดีๆ นะว่า ก๊อตเสียแล้ว ตอนแรกตนคิดว่าเขาหลอก และช่วงประมาณ 06.20 มีจ่าเวรโทรมาอีก บอกว่าก๊อตเสียแล้ว ติดต่อญาติไม่ได้ ช่วยติดต่อให้หน่อย ตนตกใจมาก ได้โทรกลับไปสอบถาม เพราะช่วงเที่ยงคืนแฟนยังทักเฟซบุ๊กมาหาตนอยู่เลย แต่ตนไม่ตอบ เพราะนอนหลับ เขาบอกว่าเหตุเกิดตอนตีหนึ่ง ก็อตหายใจไม่ออก และศพอยู่โรงพยาบาล ระบุว่าหัวใจล้มเหลว

น.ส.ชฎาพร กล่าวอีกว่า ตนกับแฟนจะโทรคุยกันตลอด วันละหลายรอบ เวลาวิดีโอคอลจะมีเพื่อนๆของแฟนมาพูดคุยทักทายกับตนด้วย แฟนไม่เคยบ่นเจ็บป่วย มีอะไรจะบอกทุกอย่าง แฟนบอกว่าถ้ามีเวลาจะกลับมาหา ตนไม่คิดว่าเขาจะกินยาฆ่าตัวตาย เพราะเราให้กำลังใจกันตลอด และไม่มีเหตุผลอะไร