พูดอะไรก็ผิด! น้องน้อยใจ ล็อกห้องขังพี่-จุดไฟเผาบ้าน พังหน้าต่างหนีตาย

น้องชาย น้อยใจ พูดอะไรก็ผิด ขังพี่ชายในห้อง-จุดไฟเผาบ้าน ปีนหน้าต่างหนีตายวุ่น ส่วนบ้านเสียหายเกือบทั้งหลัง ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ตามรวบทันควัน

เมื่อเวลา 02.10 น. วันที่ 5 ต.ค.2563 พ.ต.ท.รุ่งทวี นาปาน สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลไร่น้อย และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก เจ้าหน้าที่จึงระดมกันฉีดน้ำเข้าดับไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ตัวบ้านได้รับความเสียหายเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์

จากการสอบถาม นายสุทธิพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เจ้าของบ้านให้การว่า ช่วงเกิดเหตุตนได้กลิ่นควันไฟและเสียงไฟไหม้จากบริเวณห้องโถงของบ้าน และมองเห็นเปลวไฟอยู่หน้าห้องนอน จึงพยายามเปิดประตูหนีออกจากห้องแต่ไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากถูกล็อกจากด้านนอก จึงเปิดหน้าต่างปีนออกจากห้องมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

"ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้นั้น บ้านเกิดเหตุนอกจากผมพักอาศัยแล้ว ยังมี นายชัยวัตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี น้องชายอยู่ด้วยอีกคน ช่วงเย็นที่ผ่านมา (4 ต.ค.) ผมและเพื่อนก็นั่งดื่มสุราสังสรรค์กัน ก่อนแยกย้ายกันเข้านอนในเวลาต่อมา กระทั่งเกิดไฟไหม้ขึ้น และหลังเกิดไฟไหม้ผมพยายามตามหาตัวน้องชายก็ไม่เห็น ซึ่งน้องชายอาจเป็นคนวางเพลิงเผาบ้านก็ได้" นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามพบนายชัยวัตรเดินอยู่ในหมู่บ้าน ลักษณะมีอาการเมาสุรา จึงควบคุมตัวมาสอบถาม โดย นายชัยวัตร ให้การรับสารภาพ เป็นผู้ที่ลงมือจุดไฟเผาบ้านที่อาศัยอยู่กับพี่ชาย โดยใช้เสื้อผ้าพร้อมทั้งกระดาษเป็นเชื้อเพลิง สาเหตุเพราะน้อยใจที่ตนเองพูดอะไร ก็มักจะถูกพี่ชายต่อว่าต่อขานไม่ฟังคำพูดของตนเอง

นายชัยวัตร ให้การต่อว่า สำหรับที่ใช้ไม้แขวนเสื้อคล้องประตูห้องนอนพี่ชายเอาไว้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้นายสุทธิพงษ์ออกจากห้องมาดับไฟ และรู้ว่านายสุทธิพงษ์สามารถปีนหนีไฟออกมาทางหน้าต่างของบ้านได้

หลังจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายชัยวัตรมาทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ และควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมมีความผิดเข้าลักษณะใดบ้าง แต่เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ ดำเนินคดีกับนายชัยวัตรไว้ก่อน