Waymo กลับมาให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับในซานฟรานซิสโกหลังไฟฟ้าดับครั้งใหญ่

บริษัท Waymo กลับมาเปิดให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในนครซานฟรานซิสโกอีกครั้ง หลังเกิดเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่เป็นวงกว้าง ส่งผลให้รถยนต์ของบริษัทหลายคันต้องจอดนิ่งอยู่ตามสี่แยกทั่วเมือง โดยสาเหตุของไฟฟ้าดับคาดว่ามาจากไฟไหม้ที่สถานีจ่ายไฟของบริษัท Pacific Gas & Electric (PG&E) ทำให้สัญญาณไฟจราจรจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ และกระทบต่อการทำงานของระบบขับขี่อัตโนมัติของ Waymo

โฆษกของบริษัท Waymo ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Engadget ว่า "เหตุไฟฟ้าดับที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ขนาดใหญ่ ส่งผลให้การจราจรทั่วซานฟรานซิสโกติดขัดอย่างหนัก สัญญาณไฟจราจรหยุดทำงาน และระบบขนส่งสาธารณะหลายส่วนต้องหยุดชะงัก แม้ความล้มเหลวของโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคจะเป็นประเด็นสำคัญ แต่ Waymo ยืนยันว่าบริษัทมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถปรับตัวและรับมือกับสภาพการจราจรในสถานการณ์ฉุกเฉินลักษณะนี้ได้"

เหตุขัดข้องเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.09 น. ของวันเสาร์ และรุนแรงที่สุดในช่วง 2 ชั่วโมงถัดมา โดยบริษัท Waymo ตัดสินใจระงับบริการเรียกรถในพื้นที่เมืองชั่วคราว อย่างไรก็ตาม มีภาพและวิดีโอจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากที่เผยให้เห็นรถแท็กซี่ไร้คนขับของ Waymo จอดอยู่กลางสี่แยก พร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน สร้างความกังวลให้กับผู้ใช้ถนนในช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่น

บริษัท Waymo ชี้แจงว่า แม้ระบบ Waymo Driver จะถูกออกแบบให้ปฏิบัติต่อสัญญาณไฟจราจรที่ไม่ทำงานในลักษณะเดียวกับสี่แยกที่มีป้ายหยุด แต่ขนาดของเหตุไฟฟ้าดับครั้งนี้ใหญ่กว่าปกติ ทำให้รถบางคันต้องหยุดนิ่งนานขึ้นเพื่อประเมินความปลอดภัยของสี่แยกที่ได้รับผลกระทบ ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเพิ่มเติม โดยบริษัทย้ำว่าการดำเนินการทั้งหมดได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ของเมืองซานฟรานซิสโก

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นจุดน่ากังวลของบริษัท Waymo เนื่องจากการระงับบริการอย่างกะทันหันยิ่งซ้ำเติมปัญหาการจราจรที่เกิดจากไฟฟ้าดับให้รุนแรงขึ้น ขณะที่อีลอน มัสก์ ได้ออกมาโพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X โดยอ้างว่าบริการของ Tesla ซึ่งเป็นคู่แข่งในตลาดรถแท็กซี่ไร้คนขับเช่นเดียวกัน “ไม่ได้รับผลกระทบ” จากเหตุการณ์นี้ แม้ในความเป็นจริงแล้ว บริการเรียกรถของ Tesla ยังไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ และยังจำเป็นต้องมีคนขับควบคุมรถอยู่หลังพวงมาลัยตลอดเวลาก็ตาม