เค้นผู้ต้องสงสัย ลักพาตัว น้องจีน่า ส่ง ฮ.-เจ้าหน้าที่ ค้นหาต่อวันที่ 3

จากกรณี ด.ญ.พรศิริ วงศิลารุ่ง หรือ น้องจีน่า เด็กวัย 1 ขวบ 11 เดือน ที่หายตัวไปช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ย. ขณะเล่นกับแมวอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ บ้านห้วยฝักดาบ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ระดมปูพรมตามหาตัวแต่ยังไม่พบ เนื่องจากอุปสรรคสำคัญคือสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่กลางหุบเขา ตามบ้านเรือนมีที่รกร้างต้นไม้ และป่าทึบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 7 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ที่บ้านห้วยฝักดาบ โดยเฉพาะที่บ้านของ น้องจีน่า บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงาเนื่องจากการหายตัวไปอย่างปริศนาของ น้องจีน่า และยังไม่พบเจอตัว ซึ่งนอกจากเรื่องการพลัดหลงแล้วทางครอบครัวตั้งข้อสงสัยว่า วันที่น้องหายตัวไปมีรถยนต์เร่ขายขายที่นอนจากต่างพื้นที่ที่เข้ามาในหมู่บ้านแล้วออกไปตอนบ่ายและจอดรถอยู่นอกหมู่บ้านจนค่ำ

ดังนั้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจจะเกี่ยวข้องกัน โดยในช่วงสายวันนี้ทางเจ้าหน้าที่และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมวางแผนและทำการระดมกำลังกันออกปูพรมค้นหาอีกครั้ง เบื้องต้นได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ เริ่มปฏิบัติการบินค้นหาแล้วในช่วงสายนี้

นางมาลี ปะสี อายุ 23 ปี ซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีความหวังที่จะติดตามหาตัว น้องจีน่า จนพบและจะได้รับลูกสาวกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าน้องยังมีชีวิตอยู่และน่าจะถูกคนนำตัวไป เนื่องจากปกติน้องจีน่าค่อนข้างขี้กลัว และไม่เข้าใกล้คนอื่นนอกจากพ่อแม่ จะเล่นอยู่บริเวณบ้านและไม่กล้าที่จะเดินออกจากบ้านขึ้นไปบนถนนของหมู่บ้านด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ยกเว้นเดินไปด้วยกัน

นางมาลี กล่าวต่อว่า จึงอยากวิงวอนขอความเห็นใจว่า หากผู้ใดที่นำตัวน้องจีน่าไป อยากขอร้องว่าอย่าทำร้ายน้องและให้นำตัวกลับมาคืนด้วย ก่อนที่จะถึงวันเกิดของน้องในเดือนหน้า ซึ่งพ่อแม่ได้ให้สัญญาไว้แล้วว่าจะซื้อของเล่นและกระเป๋าที่น้องอยากได้ให้เป็นของขวัญวันเกิด โดยในตอนนี้ขอเพียงอย่างเดียวคือให้น้องปลอดภัย

ด้าน พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้สืบสวนสอบสวนทำควบคู่กันไปในเรื่องของสาเหตุการหายตัวไปของน้อง ซึ่งได้ทำการสอบปากคำคนในหมู่บ้าน รวมทั้งมีผู้ต้องสงสัย 1 ราย ที่ยังพบพิรุธให้การยังไม่ตรงนัก โดยผู้ต้องสงสัยรายนี้ เป็นเพื่อนของพ่อน้องจีน่า แต่เมื่อสอบสวนแล้วพบว่าเป็นคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย และอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ที่สำคัญเป็นบุคคลที่น้องจีน่ารู้จักมักคุ้นดี เนื่องจากแวะเวียนมาหาครอบครัวบ่อย ๆ เบื้องต้นได้ให้ชุดสืบทำการควบคุมตัวข้อหาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และทำการสอบเพิ่มอีกครั้ง

พ.ต.อ.สุคนธ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันยังพบว่ามีประเด็นในเรื่องของรถยนต์ต้องสงสัย 5 คัน ซึ่ง 2 คันเป็นรถกระบะและรถเก๋งที่วิ่งออกจากหมู่บ้านไปในช่วงที่พ่อของน้องจีน่านำขยะไปทิ้งและเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่น้องหายตัวไป โดยได้ให้ชุดสืบแกะรอยจากวงจรปิดเพื่อนำมาสอบสวน จึงตั้งประเด็นสงสัยว่ามีโอกาสที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ชนน้องหรือไม่ จนทำให้ต้องนำร่างของน้องออกไปจากพื้นที่เพื่อไปซ่อนเร้นอำพราง หรือว่าอาจจะลักพาตัวไปเพื่อการอื่นซึ่งก็ต้องรอให้ชุดสืบสวนทำงานก่อนยังไม่สามารถตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไปได้