เกาหลีใต้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 59 คน เชื่อมโยงสแกมเมอร์กัมพูชา

สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีใต้ ในคดีฉ้อโกง 59 คน จากทั้งหมด 64 คน ที่ถูกจับกุมได้จากศูนย์สแกมเมอร์ในกัมพูชา และเพิ่งถูกส่งตัวกลับประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาและได้กระจายไปเข้ารับการสอบสวนใน 6 หน่วยงานตำรวจระดับภูมิภาคและสถานีตำรวจทั่วประเทศ ที่พบว่าทั้ง 59 คนนี้ มีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุอาชญากรรมทางออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การหลอกให้รัก (romance scam), การหลอกลวงด้วยเพจหรือโปรไฟล์ปลอมที่เรียกว่า leading room scam นอกจากนี้ยังมีคดีโทรหลอกเงิน (voice phishing) และการหลอกลวงด้านการลงทุนหรือบัตรของขวัญด้วย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า จากจำนวนชาวเกาหลีที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ มี 4 คนที่ได้รับการปล่อยตัวในเวลาไม่นาน ส่วนอีก 1 คนได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่อัยการปฏิเสธคำร้องขอหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่หนังสือพิมพ์รายวัน “โชซอน อิลโบ” รายงานว่า ระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องสงสัยบางรายให้การว่าถูกสมาชิกในองค์กรอาชญากรรมของกัมพูชากักขังและทำร้ายร่างกาย โดยตำรวจเกาหลีใต้ยังได้ยึดไฟล์คลิปเสียงที่สอดคล้องกับคำให้การดังกล่าวและกำลังตรวจสอบอย่างละเอียดกับผู้ต้องสงสัยทั้งหมด นอกจากนี้ผลการตรวจสารเสพติดเบื้องต้นของผู้ต้องสงสัยด้วยชุดตรวจ พบว่าผลของทุกคนออกมาเป็น “ลบ” แต่จะมีการตรวจเชิงลึกเพิ่มเติมต่อไป 

โชซอน อิลโบ รายงานด้วยว่า ในขั้นต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจมีแผนจะสอบสวนอย่างครอบคลุมในทุกด้าน รวมถึงข้อมูลการเข้าออกประเทศ โครงสร้างขององค์กรในกัมพูชา สภาพของศูนย์หลอกลวง เครือข่ายจัดหาบุคลากรและนายหน้า ความเสียหายจากการลักพาตัวหรือกักขัง รวมถึงการใช้สารเสพติด โดยตำรวจตั้งเป้าจะติดตามผู้ร่วมขบวนการในต่างประเทศและองค์กรที่เชื่อมโยงในประเทศ เพื่อจัดทำมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตด้วย 

จากข้อมูลของรัฐบาลพบว่ามีชาวเกาหลีใต้หลายพันคนที่เดินทางไปกัมพูชาและไม่ได้กลับบ้านในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีพลเมืองจำนวนมากที่ทำงานในศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา ขณะที่ ข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมที่ส่งถึง ส.ส. พัค ชาน-แด จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลีระบุว่า ส่วนต่างระหว่างจำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปกัมพูชาและผู้ที่ได้กลับมาจากกัมพูชาอยู่ที่ 3,209 คนในปี 2022 และ 2,662 คนในปี 2023 และ 3,248 คนในปี 2024 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเดิมที่มีแค่ 113 คนในปี 2021

เมื่อมีชาวเกาหลีใต้จำนวนมากที่ยังไม่ได้กลับบ้าน ทำให้เกิดคำถามว่า จำนวนพลเมืองที่เกี่ยวข้องกับศูนย์หลอกลวงในกัมพูชาอาจสูงกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้ประมาณ 1,000 คนหรือไม่ ไม่เพียงเท่านี้แต่กรณีที่ชาวเกาหลีใต้ถูกหลอกไปทำงานในศูนย์สแกมเมอร์ของกัมพูชามีส่วนทำให้คะแนนนิยมของผู้นำเกาหลีใต้ร่วงลงเช่นกัน

โดยจากผลสำรวจล่าสุดในวันนี้ (20 ตุลาคม) ระบุว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ร่วงลงมาอยู่ที่ 52.2% หรือร่วงลงมา 1.3% จากเดิม ซึ่งเป็นผลจากหลายปัจจัย ทั้งความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และการหยุดชะงักของบริการภาครัฐออนไลน์หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์ข้อมูลของรัฐ และเหตุชาวเกาหลีใต้ถูกหลอกไปทำงานในกัมพูชา ซึ่งก็ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่สบายใจ และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลต่อกรณีดังกล่าว