ปปง.จัดบัญชีคนการเมืองกลุ่มเสี่ยงสูง สั่งแบงก์ติดตามธุรกรรม คุมเข้มฟอกเงิน

ปปง.ประกาศบัญชี “บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง” บังคับสถาบันการเงินเข้มตรวจธุรกรรม เริ่มใช้ 2 ก.พ. 69

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยประกาศนิยามและตำแหน่งของ บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (Politically Exposed Persons: PEPs) ตามกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. 2563 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2569

ปปง.ระบุว่าประกาศฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานการป้องกันการฟอกเงินของไทยให้สอดคล้องกับหลักสากล ทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติ UNCAC และมาตรฐานของ FATF โดยเฉพาะมาตรการคัดกรองลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงด้านการทุจริตและฟอกเงิน ซึ่งรวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ครอบคลุมตำแหน่งฝ่ายบริหาร–นิติบัญญัติ–ตุลาการ–องค์กรอิสระ–ท้องถิ่น รวมถึงต่างประเทศ

ประกาศกำหนดรายชื่อตำแหน่ง PEPs ครอบคลุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถใช้เป็นแนวทางวิเคราะห์ความเสี่ยงทางธุรกรรมได้อย่างถูกต้อง

ปปง.ย้ำ บุคคลเป็น PEPs ไม่ได้หมายถึงกระทำผิด

ปปง.ชี้แจงว่า การจัดให้บุคคลอยู่ในกลุ่ม PEPs เป็นเพียงการกำหนดระดับความเสี่ยงด้านธุรกรรม ไม่ใช่การกล่าวหาว่าบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน อีกทั้งไม่มีกฎหมายบังคับให้รายงานธุรกรรมเฉพาะของ PEPs เว้นแต่เป็นกรณีธุรกรรมที่เข้าหลักเกณฑ์จำนวนเงินที่ต้องรายงาน หรือมีเหตุอันควรสงสัยตามที่กฎหมายกำหนด

หน้าที่ของสถาบันการเงินต้องทำ CDD/EDD เข้มข้นกว่าเดิม

สถาบันการเงินและผู้มีหน้าที่รายงาน จะต้องปฏิบัติภายใต้กฎกระทรวง CDD ดังนี้

• ตรวจสอบว่าสถานะลูกค้าเข้าข่าย PEP หรือไม่
• ขอข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงิน (Source of Funds / Source of Wealth)
• ขออนุมัติจากผู้บริหารระดับสูงก่อนเปิดความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
• ติดตามการทำธุรกรรมอย่างใกล้ชิดตามหลัก Enhanced Due Diligence (EDD)
• รายงานธุรกรรมเมื่อพบเหตุอันควรสงสัย

ปปง.ระบุว่าการออกประกาศครั้งนี้เป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ระบบการเงินไม่ถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน รวมถึงช่วยเสริมความโปร่งใสในการทำธุรกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ