CPF ฟิลิปปินส์ ร่วมมือกับ ธนาคารภาครัฐ เพิ่มขีดความสามารถเกษตรกรฟิลิปินส์
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ฟิลิปปินส์ คอร์ปอร์เรชั่น หรือ ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ (CPF Philippines) ร่วมมือ กับ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งชาติฟิลิปปินส์ (Development Bank of the Philippines :DBP) ในโครงการความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนแก่เกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อในระบบคอนแทรคฟาร์ม โดยมีนายอุดมศักดิ์ อักษรภักดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ และนายศุภกิตติ บุญเวช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านบัญชีการเงิน เป็นตัวแทนบริษัท ร่วมด้วยนางคาโรลีน ไอ ออยฟินโด (Ms. Carolyn I. Olfindo) รองประธานอาวุโส ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งชาติฟิลิปปินส์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Agreement: MoA) และมีผู้บริหารของซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ และธนาคารฯ ร่วมด้วย ณ สำนักงานของ CPF ฟิลิปปินส์ ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์นางคาโรลีน กล่าวว่า ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งชาติฟิลิปปินส์ เป็นธนาคารภาครัฐที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อ ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลง (MoA) ระหว่างธนาคารและ CPF Philippines ครั้งนี้ มีส่วนช่วยให้ธนาคารสามารถลดกระบวนการในการพิจารณาสินเชื่อของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อในระบบคอนแทรคฟาร์มของ CPF Philippines ได้รวดเร็วขึ้น เป็นโครงการที่ดีช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการด้านปศุสัตว์ของฟิลิปปินส์เติบโตอย่างมั่นคง เป็นอีกแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างรากฐานของความมั่นคงทางอาหารของประเทศ นายอุดมศักดิ์ กล่าวว่า ภายใต้บันทึกข้อตกลง CPF Philippines จะช่วยรับรองเกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อในระบบคอนแทรคฟาร์มกับบริษัทฯ ว่าเป็นเกษตรกรที่มีศักยภาพ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่น่าเชื่อถือได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น เกษตรกรได้มีเงินทุนมาใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงฟาร์ม ตลอดจนเป็นค่าดำเนินการในการยกระดับระบบการจัดการ และระบบป้องกันโรคต่างๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร ช่วยให้เกษตรกรผลิตอาหารได้อย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการบริโภคอาหารคุณภาพสูงของชาวฟิลิปปินส์ได้อย่างเพียงพอโครงการความร่วมมือเพิ่มขีดความสามารถให้แก่เกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อฟิลิปปินส์ สอดคล้องตามค่านิยม “3 ประโยชน์” ซึ่งเป็นปรัชญาสำคัญที่บริษัทยึดมั่นและนำไปปรับใช้กับทุกพื้นที่ที่ ซีพีเอฟ เข้าไปดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยประโยชน์ของประชาชนในประเทศ และสุดท้ายคือองค์กร เป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน ร่วมดูแลและช่วยเหลือสังคมในพื้นที่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี