นายกฯ อิสราเอลวอนวัยรุ่นฉีดวัคซีนโควิด-19 หลัง 'สายพันธุ์เดลตา' ระบาด

เยรูซาเล็ม, 28 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอาทิตย์ (27 มิ.ย.) นาฟตาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรียกร้องกลุ่มวัยรุ่นฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มสูงจากการระบาดในท้องถิ่นของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา (Delta)

"วันนี้ผมอยากให้ประชากรวัยรุ่นของเราออกจากบ้านและไปฉีดวัคซีน" เบนเน็ตต์กล่าวขณะเริ่มการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยหมายถึงเยาวชนที่มีอายุมากกว่า 12 ปี

เบนเน็ตต์ระบุว่าอัตราการฉีดวัคซีนของอิสราเอลเพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากประมาณ 3,000 คนต่อวัน อยู่ที่ประมาณ 10,000 คน แต่เขามองว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่เพียงพอ "เราต้องการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนเป็นสามเท่าอีกครั้ง ให้อยู่ที่ 30,000 คนต่อวัน และนั่นย่อมเป็นไปได้"

นอกจากนั้นเบนเน็ตต์เสริมว่ารัฐบาลแต่งตั้งโรนี นูมา อดีตนายพลกองทัพบก ให้กำกับดูแลการเดินทางบริเวณพรมแดนอิสราเอล เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาของผู้ป่วยโรคโควิด-19 เนื่องจากผู้ติดเชื้อไวรัสฯ รายใหม่จำนวนมาก มีความเชื่อมโยงกับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลประกาศคำแนะนำกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-15 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ขณะเดียวกันอิสราเอลกลับมาบังคับใช้ข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัยบริเวณพื้นที่ในร่มเมื่อวันศุกร์ (25 มิ.ย.) และมีรายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 113 ราย ในวันเสาร์ (26 มิ.ย.)