จับ 12 โรฮิงญาถูกแก๊งค้ามนุษย์เช่าตึกซุกซ่อนก่อนมุ่งหน้ามาเลเซีย

เวลา 05.00 น.วันที่ 20 พฤษภาคม นางเสษฐนันท์ เสมกัณทา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับคำสั่งจากนายชัยพฤกติ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด ให้นำกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกลาดตระเวนบริเวณตลาดริมเมย บ้านริมเมย ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 นั้น ได้ยินเสียงสุนัขเห่ามาจากพงหญ้าด้านหลังอาคารพาณิชย์แม่เมยซิทตี้ จึงเข้าไปดูพบกลุ่มคนจำนวน 16 คน รวมกลุ่มกันอยู่ และแตกตื่นกระโดดวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องติดตามไปจับกุมได้ 12 คน ทราบว่า เป็นชาวโรฮิงญา ชายหญิง จึงประสานหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ตำรวจสภ.แม่สอด ตู้บริการประชาชนริมเมย และทหารฉก.ร.4อ.แม่สอด ในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ และควบคุมตัวไว้

จากการสอบถามชาวโรฮิงญา ทั้งหมด ผ่านล่ามแปลภาษาทราบว่า ทั้งหมดถูกขบวนการค้ามนุษย์มาเช่าตึกแถวอยู่ เพื่อรอการเดินทางเข้าไปยังภาคใต้ของประเทศไทย และจะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อไปหางานทำ แต่ขณะที่กำลังรอขึ้นรถยนต์ตู้นั้น มีเจ้าหน้าที่ไปพบก่อน ชาวโรฮิงญาทั้งหมดมาจากรัฐยะไข่ ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีความยากลำบาก ไม่สามารถประกอบอาชีพในประเทศเมียนมาได้ และอยากไปทำงานที่ประเทศมาเลย์เซีย โดยผ่านนายหน้าในเมียนมา และติดต่อนายหน้าในประเทศไทยที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจ.ตาก แต่ละคนมีสภาพหิวโซ ร้องไห้ เจ้าหน้าที่สงสาร ต้องไปหาซื้ออาหารไปให้จากนั้น จึงส่งตัวให้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก

เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ชาวโรฮิงญาทั้งหมด ถูกขบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงเพื่อจะไปที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะมีด่านมากมาย และชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ถูกหลอกมาก่อนที่ชายแดนไทย-เมียนมาจะปิด และเกิดโรคโควิด-19ระบาด โดยมาอยู่ในพื้นที่ ของ จ.เมียวดี เขตอิทธิพลของทหารกะเหรี่ยง และเสียเงินให้ทหารกะเหรี่ยงบางนาย ร่วมกับนายหน้าชายแดนด้าน อ.แม่ระมาด กับนายหน้าในอำเภอแม่สอด