รัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้อง “ชัตดาวน์” หยุดทำงานบางส่วนเริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 30 กันยายนนี้
TNN World
29 กันยายน 2564 ( 15:31 )
115
America: รัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้อง “ชัตดาวน์” หยุดทำงานบางส่วนเริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 30 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดปีงบประมาณปัจจุบัน และรัฐบาลอาจผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเป็นปัญหาเศรษฐกิจขั้นร้ายแรง หลังรีพับลิกันขวางการเดินหน้าร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของเดโมแครต ข้าราชการสหรัฐฯ หลายแสนคนอาจต้องหยุดทำงานทันทีในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ประธานาธิบดี โจ ไบเดนและพรรคเดโมแครตมีเวลาเหลือไม่ถึง 2 วันเท่านั้น จนถึงเที่ยงคืนของวันพฤหัสที่ 30 กันยายนนี้ ที่จะต้องแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้อง “ชัตดาวน์” หรือหยุดการทำงาน และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจขั้นร้ายแรงมาก คือการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ
ขณะนี้พรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน กำลังปะทะกันในวุฒิสภา เดโมแครตต้องการให้วุฒิสภาผ่านร่างระงับเพดานหนี้สาธารณะไว้ชั่วคราว เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องหยุดทำงาน และไม่ให้รัฐบาลต้องผิดนัดชำระหนี้
แต่พรรครีพับลิกันในวุฒิสภา เพิ่งลงมติขัดขวางไม่ให้เดโมแครตสามารถเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว ไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 กันยายน) และต้องการให้แยกทั้ง 2 เรื่องออกจากกัน
ทั้งนี้ วันพรุ่งนี้ 30 กันยายน คือวันสิ้นสุดปีงบประมาณปัจจุบัน และปีงบประมาณหน้าจะเริ่มขึ้นทันทีในวันถัดไปคือวันที่ 1 ตุลาคม
หากรัฐบาลไบเดนล้มเหลวในการแก้ปัญหา และทำให้รัฐบาลต้องชัตดาวน์หยุดการทำงาน เนื่องจากหมดเงินงบประมาณที่จะใช้จ่ายต่อไป จะทำให้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ข้าราชการในสังกัดรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หลายแสนคน อาจต้องหยุดทำงาน
นอกจากนี้ เดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ ยังจะต้องหาทางเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันถูกจำกัดเพดานอยู่ที่ 28.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้ได้ มิเช่นนั้น กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะไม่สามารถกู้เงินเพิ่มได้ และอาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ของชาติในเดือนตุลาคมได้
ปัญหารัฐบาลสหรัฐฯ เสี่ยงชัตดาวน์หยุดการทำงาน เป็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่คุกคามสหรัฐฯ มาตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา และทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ถึงกับต้องหยุดการทำงานมาแล้วหลายครั้ง
ครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในสมัยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คนก่อนหน้าประธานาธิบดีไบเดนในช่วงปลายปี 2018 ถึงต้นปี 2019 ในครั้งนั้น รัฐบาลของทรัมป์ต้องหยุดทำงานนานถึง 35 วัน ก่อนที่ปัญหาจะสิ้นสุดลงในเดือนมกราคมปี 2019