รีเซต

โลกร้อนภัยธรรมชาติรุนแรง อนาคตเกิดบ่อยขึ้นแน่ ทั้งเมฆระเบิด ฝนกระหน่ำ ฝนสุดขั้ว

โลกร้อนภัยธรรมชาติรุนแรง อนาคตเกิดบ่อยขึ้นแน่ ทั้งเมฆระเบิด ฝนกระหน่ำ ฝนสุดขั้ว
TNN ช่อง16
6 ธันวาคม 2568 ( 10:39 )

ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat ระบุว่า ในอนาคตจะได้เห็นเมฆระเบิด (Cloudburst),ฝนตกกระหน่ำ (Rain Bomb)และฝนตกสุดขั้ว(Extreme Rainfall) ถี่ขึ้น มาพร้อมกับโลกที่ร้อนขึ้น


1.ระเบิดฝน หรือ Rain Bomb 

คือฝนที่ตกกระหน่ำเป็นฝนที่ตกหนักฉับพลันและเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้เนื่องจากปริมาณน้ำมหาศาลที่ตกลงมาในช่วงเวลาสั้นๆ และมักจะก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มที่อันตรายสาเหตุมาจากเมฆระเบิด (Cloudburst) คือการที่ความชื้นปริมาณมากถูกลมพัดมารวมตัวกันในที่ใดที่หนึ่ง เมื่อมีมวล อากาศเย็นหรือลมจากทะเลพัดเข้ามาปะทะทำให้เมฆกระจายกลายมาเป็นหยดน้ำ นำมาสู่ฝนตกกระหน่ำ (Rain Bomb)และฝนตกแบบสุดขั้ว (Extreme rainfall) ในที่สุด

2.ฝนตกหนักสุดขั้ว

คือปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิ ภาคหรือช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญ โดยทั่วไปแล้วปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักที่สุด 5% หรือ10%ของปริ มาณน้ำฝนที่บันทึกไว้จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และได้รับอิทธิพลจากสภาพภูมิอากาศเฉพาะปัจจัยทางอุตุนิ ยมวิทยาหลายประการที่กระตุ้นให้เกิดฝนตกหนัก เช่น แม่น้ำในชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นแถบแคบๆ ที่มีความชื้นสูงมักทำให้เกิดฝนตกหนัก, พายุหมุนเขตร้อนและพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งเกิดจากอากาศที่อุ่นและชื้นที่ลอยตัวขึ้นส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่เฉพาะหรือเป็นบริเวณกว้างอีกด้วย

 

3.ภาวะโลกร้อนทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น

เนื่องจากบรรยากาศสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้นประมาณ 7% ทุกๆ อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1°C (1.8°F) ปริมาณน้ำฝนสูงสุดจะทวีความรุนแรงขึ้นในสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นทั่วโลกและปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักจะเพิ่มขึ้นเกือบทุกที่ แต่จะพบปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักจากอุณหภูมิสูงที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในพื้นที่ชื้นเขตร้อนเช่น อินเดีย ออสเตรเลียตอนเหนือ และป่าแอมะซอน” 

นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออสเตรีย (ISTA) และสถาบันมักซ์พลังค์ด้านอุตุนิยมวิทยาได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาใหม่ในวาร สาร Science Advances ซึ่งใช้แบบจำลองสภาพภูมิอากาศโลกความละเอียดสูงเพื่อทำความเข้าใจว่ากลุ่มเมฆและพายุที่รวมตัวกันส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำฝนที่รุนแรงในเขตร้อนอย่างไร พวกเขาแสดงให้เห็นว่า "เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น ความรุนแรงของเหตุการณ์ฝนตกหนักรุนแรงก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เราจะไม่เพียงแต่เห็นปริมาณน้ำฝนที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะมีช่วงแล้งที่รุนแรงและยาวนานขึ้นในอนาคตอีกด้วย”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง